นครปฐม - ผู้แทนองค์กรส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา (อสคพ.) ยื่นหนังสือต่อสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2560 นายวิชัย ประเสริฐสุดสิริ ผู้ประสานงานองค์การส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา ,นายสุรวัชร สังขฤกษ์ ,พระอาจารย์ สุทธิ์ศักดิ์ สิรินันโท วัดอ้อยช้าง จ.นนทบุรี ได้เข้า ร่วมยื่นหนังสือ ต่อสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในเรื่อง ขอให้ตรวจสอบการนำข้อมูลทางราชการออกมาเผยแพร่ผ่านพระพุทธธะอิสระ โดยมีนายประดับ โพธิกาญจนวัตร โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธมณฑล ออกมารับเรื่องดังกล่าวแทน ผอ.พศ.

 

 

โดยมีข้อความว่า องค์กรส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา(อสคพ.)ได้มายื่นหนังสือร้องทุกข์พระพุทธะอิสระเกี่ยวกับความผิดที่ได้กระทำการมิบังควรโดยการสร้างพระนาคปรกใส่พระปรมาภิไธย ภปร.และพระนามาภิไธย สก.ในสิ่งเดียวกันโดยไม่ได้รับพระบรมราชานุญาต เรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการของกองปราบปราม   การที่พระพุทธะอิสระพยายามเอาข้อมูลของ พ.ศ. และปปป.ออกมาโจมตีพระเถรานุเถระ วัดวาอารามและมหาเถรสมาคม ทั้งฝ่ายธรรมยุตและมหานิกายรวมทั้งสถาบันพระพุทธศาสนา ในขณะนี้นั้นเป็นเพราะต้องการจากกลบความผิดที่ได้กระทำการมิบังควรดังกล่าวหรือไม่เนื่องจากพฤติการณ์ดังกล่าวนี้เสมือนเป็นการกระทำที่เป็นกระบวนการ ดังนั้นองค์กรส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา จึงขอแถลงการณ์ดังนี้

1.ทำไมข้อมูลทางราชการของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเกี่ยวกับงบอุดหนุนปฏิสังขรณ์ วัดวาอารามต่างๆและเงินอุดหนุนการศึกษาสงฆ์จึงหลุดไปอยู่ในมือ พระพุทธะอิสระ ผอ.พ.ศ. และปปป.มีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการส่งข้อมูลให้พระพุทธะอิสระเพื่อยืมมือ พระพุทธะอิสระออกมาโจมตีพระภิกษุสงฆ์วัดวาอารามต่างๆและมหาเถรสมาคมในขณะนี้หรือไม่

2.ความจริงแล้วโดยพระวินัยพระภิกสุไม่สามารถร้องขอเงินหรือปัจจัยใด จากฆารวาส ญาติโยมได้ตามพระไตรปิฎกเล่มที่2 โกสิยวรรค(8) รวมทั้งจากรัฐบาลผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ผ่านมารัฐบาลจัดสรรงบประมาณดังกล่าว ผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมดูแลปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ เมื่อรัฐบาลเป็นผู้ถวายพระภิกษุในฐานะผู้รับไม่สามารถ ร้องขอหรือชี้นำใดๆได้เพราะเท่ากับว่าพระภิกษุนั้นมีความยินดียินร้ายหรือมีความกำหนดในทรัพย์สินนั้นนั้นก็ผิดพระวินัย โกสิยวรรค(8) เมื่อ ผอ.พ.ศ. คือ(ทายก) ผู้ได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้แต่ละวัดเท่าไหร่พระภิกษุท่านก็ได้ดำเนินการตามที่ พ.ศ. ถวายคำแนะนำในฐานะ(ปฏิคาหก)คือผู้รับ ตามพุทธานุบัญญัติโดยไม่สามารถถามได้ว่า พ.ศ. จะเอาเงินที่คืนให้ไปทำอะไรที่ไหนอย่างไรเพื่อไม่ให้ต้องอาบัติ  

3.เมื่อพระท่านดำเนินการตามที่ ผอ.พ.ศ. หรือเจ้าหน้าที่พ.ศ. แนะนำแล้ว เท่ากับเงินออกจากความรู้เห็นของพระภิกษุตามพระวินัยแล้วแต่เมื่อเกิดการทุจริตคอรัปชั่นขึ้นย่อมเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องดำเนินการกับ ผอ.พ.ศ. หรือเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ที่เกี่ยวข้องจึงจะถูกต้อง 

4.ขอเรียกร้องให้ ผอ.พ.ศ. และปปป.รีบเร่งดำเนินการจัดการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนทำให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอย่างเร่งด่วนและหยุดการส่งข้อมูลให้พระพุทธพระอิสระนำมาโจมตีทำลายและทำร้ายสถาบันพระพุทธศาสนาอย่างที่ทำอยู่ในขณะนี้

 

 

ปนิทัศน์ มามีสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครปฐม