กรรมบทที่หนึ่ง!! เด้งแล้ว "ผอ.อนุบาลลำปาง" จ่อผิดวินัย+อาญา หลักฐานมัดซิกแซกเงินรายได้ร.ร.ใช้ส่วนตัวโยงยัดเยียดหนี้ให้อดีตเลขากว่า 40 ล้าน??

จากกรณีนางสุรณี กัลยารัตนกุล อายุ 64 ปี หรือ ครูต้อย อดีตครูเกษียณราชการ และอดีตเลขาส่วนตัวของผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลลำปาง จังหวัดลำปาง เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)ลำปาง เขต 1 หลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักที่ต้องรับหน้าเป็นหนี้แทนผู้อำนวยการโรงเรียนให้ไปกู้ยืมเงินมากว่า 10 ล้านบาท และรับเงินของทางโรงเรียนโดยไม่ผ่านระบบ ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวได้นำเงินไปใช้ส่วนตัวเป็นระยะเวลา 4 ปี ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

 

 

ความคืบหน้าล่าสุด พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้รายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริงให้ที่ประชุม จากการสืบข้อมูลทั้งเอกสารและพยานบุคคลพบว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนมีการจัดตั้งสำนักงานบริหารจัดการ ขึ้นบริเวณหน้าห้องผู้อำนวยการโรงเรียน โดยมีเจ้าหน้าที่โรงเรียน 3 ราย และผู้ร้อง 1 ราย รวม 4 รายทำหน้าที่บริหารเงินรายได้ที่มาจาก 3 โครงการ ไม่มีการนำเข้าเป็นรายรับของสถานศึกษา จึงเชื่อได้ว่าผู้อำนวยการโรงเรียนมีการนำไปใช้ส่วนตัวจริง

 

 

ขณะนี้ สพป.ลำปาง เขต 1 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และมีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนไปปฏิบัติหน้าที่สพป.ลำปาง เขต 1 อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการสอบสวนวินัยพบว่า ผิดจริงมีโทษไล่ออกถึงปลดออก ส่วนจำนวนเงินที่ผู้อำนวยการรายดังกล่าวนำไปใช้ส่วนตัวเท่าไรนั้นยังไม่ได้สรุปผล แต่เท่าที่ผู้ร้องเคยร้องเรียนให้ตรวจสอบอยู่กว่า 40 ล้านบาท และกรณีนี้ถือว่าเป็นคดีอาญา ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินการทางกฎหมาย หากเป็นข้าราชการต้องลงโทษทางวินัย

 

 

 

 

สำหรับ 3 โครงการดังกล่าว ได้แก่ โครงการฝากเด็กไว้กับครูตอนเย็น เก็บรายละ 500 บาท, โครงการจัดเรียนพิเศษ ในช่วงเดือนตุลาคม เก็บรายละ 2,000 ต่อคน และเรียนพิเศษช่วงเดือนเมษายน  เก็บรายละ 2,500 บาทต่อคน ซึ่งทั้ง 2 โครงการ ไม่มีใบเสร็จและไม่มีการนำเข้าสถานศึกษาอย่างถูกต้อง และโครงการเตรียมอนุบาล ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 โดยเปิดห้องปกติ 3-5 ห้องเก็บค่าเรียนภาคเรียนละ 20,000 บาท และเปิดห้องมินิอิงลิช โปรแกรม (Mini English Program) ภาคเรียนละ 40,000 บาทต่อเทอม เงินตรงส่วนนี้มีใบเสร็จแต่เป็นใบเสร็จที่ไม่ถูกต้อง.