ปอกเปลือก"เกษม-เด็กเจ๊แดง"จากคนรถสู่ ส.ส.ก่อนถูกกระชากลงอีกครั้งด้วยมือนายหญิง วนเวียนอยู่กับแจ้งทรัพย์เป็นเท็จ บั้นปลายนอนคุก-ถูกยึดทรัพย์ 

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews

 

ปอกเปลือก "เกษม นิมมลรัตน์" อดีต ส.ส.เชียงใหม่ และอดีตที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ คนสนิทนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือเจ๊แดง ชีวิตล้วนถูกลิขิตด้วยมือนายหญิง จากคนขับรถสู่ ส.ส. ผู้ทรงเกียรติ แต่ถูกกระชากลงอีกครั้ง...เพื่อเปิดทางให้นายหญิงกลับมาเป็น ส.ส. แต่เจ้าตัวอ้างแบบคิดว่า คนไทยโง่...มีปัญหาสุขภาพ...และอยากทำงานการเมืองท้องถิ่น (แล้วลาออกจากท้องถิ่นมาสมัคร ส.ส. ทำไมตั้งแต่แรก-ผู้เขียน) ก่อนน้ำตาตกในอีกครั้ง เมื่อศาลสั่งจำคุก-แถมถูกยึดทรัพย์ 168 ล้าน ด้วยความผิดเดิม ๆ ที่วนเวียนอยู่ใน "เครือข่ายทักษิณ" คือ แจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินอันเป็นเท็จ

 

ควันหลงจากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีหมายเลขดำที่ อม. 64/2559 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 43/2560 ระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กับนายเกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ และอดีตที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ คนสนิทนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ โดยมีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อม. 97/2559 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 44/2560 ระหว่างอัยการสูงสุด (อสส.) กับนางดวงสุดา นิมมลรัตน์, นางบุญทอง สุภารังษี และนายเกษม โดยองค์คณะผู้พิพากษามีมติเป็นเอกฉันท์ให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของจำเลยทั้ง 3  มูลค่า 168,453,245.70 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4, 38 ประกอบมาตรา 83 

 

สำหรับนายเกษม ซึ่งเป็นจำเลยหลักของเรื่องนี้ ข้อมูลระบุว่า เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส. ของ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ในช่วงปี 2544 – 2548 ก่อนไทยรักไทยจะถูกยุบพรรค และนางเยาวภาติดโทษแบนทางการเมือง 5 ปี จากเหตุที่แกนนำไทยรักไทยเข้าไปพัวพันการจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้งเมื่อปี 2549 ซึงทาง กกต.ชี้ว่าเป็นความผิด และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคไทยรักไทย เหนืออื่นใดก็คือ ข้อมูลยังระบุแบบโต้ง ๆ ว่า แท้จริง...เขาเป็นคนขับรถให้นางเยาวภา...ตำแหน่งอื่นอุปโลกน์ขึ้นมาในภายหลัง

 

เมื่อพ้นยุคแม่ นายเกษม ผันตัวเองมานั่งเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส. ของ น.ส. ชินณิชา วงสวัสดิ์ บุตรสาวของนางเยาวภา ด้วยอีกคน ซึ่งต่อมา น.ส.ชินณิชา ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี แถมสั่งให้จำคุกเป็นเวลา 2 เดือน พร้อมทั้งปรับเงิน 4,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 1 ปี ในเดือนเมษายน 2555 ความผิดก็เดิม ๆ ตามแบบฉบับของ "คนในตระกูลชินวัตร"  คือ เธอแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินเป็นเท็จขณะดำรงตำแหน่ง ส.ส.


เมื่อทั้งผู้แม่คือนางเยาวภา และผู้ลูกสาว น.ส.ชินณิชา ถูกใบแดงทางการเมือง (ช่วงกลางปี 2555 นางเยาวภาพ้นโทษทางการเมือง 5 ปีแล้ว แต่หันไปอยู่หลังฉากแทน) ตอนนั้นเองที่โอกาสในการเป็น ส.ส. ได้ตกมาถึงนายเกษม ลือกันให้แซ่ดในแวดวงคอการเมือง และนักข่าวสายการเมืองในขณะนั้นว่า นางเยาวภา ซึ่งเป็นแกนนำไทยรักไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงภาคเหนือ เป็นผู้หยิบชื่อนายเกษม และส่งลงสมัคร ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ แทนน.ส.ชินณิชา ลูกสาวที่ถูกแบนทางการเมือง และเขาก็ถึงฝั่งฝันได้เป็น "สมาชิกผู้ทรงเกียรติ" ตามใจปรารถนาด้วยใบสั่งของเจ๊แดง

แต่แปลกเมื่อส่งให้ถึงฝั่งฝันได้ก็ย่อมทุบทำลายฝันให้แตกสลายได้ ลือกันให้แซ่ดอีกครั้งหนึ่งว่า การลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. ของนายเกษม ในเดือนมีนาคม 2556 หรืออีก 1 ปีต่อมา โดยเขาอ้างปัญหาสุขภาพ และต้องการจะทำงานการเมืองในท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่มากกว่า แท้จริงเป็นการลาออกเพื่อเปิดทางให้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อเตรียมเป็นนายกรัฐมนตรีสำรอง หลังพ้นโทษทางการเมือง และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นน้องสาวของเยาวภา และดำรงตำแหน่งนายกฯ ขณะนั้นเริ่มออกอาการซวนเซ-เจียนอยู่เจียนไปจากการบริหารประเทศที่ไม่เป็นสับปะรด

 

อย่างไรก็ตาม เคราะห์กรรมของเกษม เดินทางมาถึงอย่างแท้จริงเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2559 หลังรัฐบาล คสช. เข้ามาจัดการประเทศได้ 2 ปี เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่าเขา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ รวม 6 กรณี จากกรณีที่พ้นจากตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี ในตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงใหม่ , กรณีเข้ารับตำแหน่ง –พ้นจากตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปีในตำแหน่ง ส.ส.เชียงใหม่ และกรณีเข้ารับตำแหน่ง รองนายก อบจ.เชียงใหม่...ซึ่งกล่าวกับแบบถึงที่สุด...ก็เป็นข้อกล่าวหาเดียวกับที่ น.ส.ชินณิชา อดีตลูกนายหญิง และ "คนในตระกูลชินวัตร" โดนกันมาแล้วหลายคน


...และนั่นเป็นต้นทางของการถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งจำคุกเขา 12 เดือน เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560 รวมทั้งมีคำสั่งให้ทรัพย์สินจำนวน 7 รายการ และดอกเบี้ยมูลค่า 168 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน ก่อน "เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา" ได้เผยแพร่คำพิพากษาของศาลฯ กรณีนี้อีกครั้งในวันนี้   

...และถือเป็นการปิดตำนาน...เด็กปั้นเจ๊แดง...จากคนขับรถ....ขึ้นสู่ ส.ส. ด้วยฝีมือนายหญิง ก่อนจะถูกกระชากจากฝัน...รับเคราะห์กรรมถึงขั้นถูกสั่งจำคุก...และถูกยึดทรัพย์ที่ได้มาโดยมิชอบไป 168 ล้านบาท...นั่นก็ล้วนแต่เป็นฝีมือ...ของใคร...วิญญูชนย่อมพิจารณาได้เอง??

 

ภาพ : ศิริพงษ์ หนูแก้ว : สำนักข่าวทีนิวส์