อีกไม่กี่วัน !!! นปช.-กปปส. มาเจอกัน !?!? "พล.อ.ประยุทธ์" มาเอง ไม่ขัดแย้ง ไม่มีการใช้อาวุธ ทั้งหมดคือ “สัญญาทางใจ” (รายละเอียด)


หลังจากที่ กอ.รมน.-ทัพภาค1 พร้อม เปิดเวทีสาธารณะเพื่อชี้แจง"ร่างสัญญาประชาคม" จันทร์นี้ เชิญ400 คน ตัวแทน พรรคการเมือง , กลุ่มการเมือง และ กลุ่ม NGOs ที่เคยแสดงความเห็นไว้ มาตรวจร่างฯ 17-20กค.เปิดเวทีในค่ายทหาร. บก.ทัพภาค1-2-3-4 กทม.-โคราช-พิษณุโลก-นครศรีฯ

ใน Wassana Nanuam ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพห้องประชุมระบุว่า พ.อ. พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษก กอ.รมน. กล่าว่า ได้เชิญประชาชนกลุ่มต่างๆ มาเข้าร่วมรับฟังการชี้แจง "ร่างสัญญาประชาคม" จาก คณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อความสามัคคีปรองดอง(คณะอนุกรรมการฯ ชุดที่ 3)

ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17 – 20 ก.ค.60. ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจในรายละเอียดของเนื้อหาร่างสัญญาประชาคม
พร้อมกับรับฟังความคิดเห็น ก่อนที่คณะอนุกรรมการฯ ชุดที่ 3 จะพิจารณาจัดทำร่างสัญญาประชาคมฉบับสมบูรณ์ต่อไป


ทั้งนี้ เบื้องต้น ผู้เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงฯ จะเป็นพี่น้องประชาชนที่เป็นผู้แทนจากกลุ่มต่างๆ ที่ได้เคยให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะฯในขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็นฯจาก 76 จังหวัด และ กทม.

พื้นที่ภาคกลาง ในวันจันทร์ ที่ 17 ก.ค.60 ณ สโมสรกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 กทม. ผู้เข้าร่วมรับฟังการชี้แจง จำนวน 400 คนเศษ ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้แทนจากกลุ่มต่างๆใน 26 จังหวัดภาคกลาง(เว้น กทม.) และในพื้นที่ กทม. ได้เรียนเชิญ พรรคการเมือง 70 พรรค กลุ่มการเมือง 2 กลุ่ม และ NGOs เฉพาะในส่วนนี้ประมาณ 100 คนเศษ

พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันอังคาร ที่ 18 ก.ค.60 ณ สโมสรร่วมเริงไชย กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ผู้เข้าร่วมรับฟังการชี้แจง จำนวน 300 คนเศษ ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้แทนจากกลุ่มต่างๆใน 20 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พื้นที่ภาคเหนือ ในวันพุธ ที่ 19 ก.ค.60. ณ อาคารกีฬาเอนกประสงค์ ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ กองบัญชาการช่วยรบ ที่ 3 จังหวัดพิษณุโลก ผู้เข้าร่วมรับฟังการชี้แจง จำนวน 300 คนเศษ ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้แทนจากกลุ่มต่างๆใน 17 จังหวัดของภาคเหนือ
พื้นที่ภาคใต้ ในวันพฤหัสบดี ที่ 20 ก.ค.60 ณ สโมสรรื่นฤดี ค่ายวชิราวุธ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้เข้าร่วมรับฟังการชี้แจง จำนวน 300 คนเศษ ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้แทนจากกลุ่มต่างๆใน 14 จังหวัดของภาคใต้

การเรียนเชิญ และการจัดเตรียมสถานที่ กอ.รมน. โดย กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด ได้ดำเนินการทุกประการไว้เรียบร้อยแล้ว กอ.รมน. จึงขอเรียนเชิญผู้แทนของกลุ่มต่างๆที่เคยมาร่วมแสดงความคิดเห็นได้มาร่วมประชุมเพื่อรับฟังร่างสัญญาประชาคมอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้เพื่อการพัฒนาร่างสัญญาประชาคมให้มีความสมบูรณ์ ก่อนที่จะนำเสนอให้คณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองต่อไป

"นายกฯ"เผย"ร่างสัญญาประชาคม” ไม่ใช่"นามธรรม"ระบุ "ข้อปฏิบัติ" การปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ขัดแย้ง ไม่มีการใช้อาวุธ เผยแผนแถลงอย่างเป็นทางการ ชี้เป็น“สัญญาทางใจ” ว่าเราจะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างไร ในอนาคต ระบุประชาชนเป็นผู้กำหนด- ไม่ใช่นักการเมือง
พลเอกประยุทธ์ กล่าว ในรายการ "ศาสตร์พระราชาฯ" เมื่อคืนวันศุกร์ว่า ภารกิจ “การสร้างความปรองดอง” ที่ทุกคนอยากทราบของรัฐบาลและ คสช. ผมอยากให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบความคืบหน้า และเชิญชวนให้มีส่วนร่วม ก็คือ คณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ของ ป.ย.ป.

โดยจะจัด “เวทีสาธารณะ” เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชน “ทั่วประเทศ” อีกครั้ง ช่วงสัปดาห์หน้า วันที่ 17 – 20 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการรับฟังความคิดเห็น – ข้อเสนอแนะ จากทุกภาคส่วน รวมทั้งจากพรรคการเมืองต่างๆ ด้วย แล้วจะนำมาจัดทำ “ร่างสัญญาประชาคม” พี่น้องประชาชนที่สนใจ ก็ติดตามความคืบหน้าต่างๆ สามารถหาข้อมูลได้โดยตรง จาก Facebook ชื่อ “ปรองดองเป็นของประชาชน”
โดยเวทีสาธารณะในครั้งนี้ นอกจากต้องการสร้างความตระหนักรู้แล้ว ก็ยังจะเปิดรับฟังความเห็นเพิ่มเติมอีกด้วย
ก่อนที่จะนำมาจัดทำเป็น “สัญญาประชาคม ฉบับสมบูรณ์”
"ผมก็ได้สั่งการไปแล้วใน ลสัญญาฉบับประชาคม"นั้นมันจะต้องมีแนวทางในการปฏิบัติด้วย. ไม่เช่นนั้นมันก็จะมีเฉพาะในเรื่องของ นามธรรม ต้องมีอะไรที่จะร่วมมือกันบาง เช่น การปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ขัดแย้ง ไม่มีการใช้อาวุธ อะไรต่างๆทำนองนี้แนบไปกับสัญญาประชาคมด้วย ถ้าเซ็นต์กันแล้ว ก็ต้องไม่เกิดความวุ่นวายสับสน อลม่านเมื่อเช่นที่ผ่านมา ก่อนปี 57

และเราจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการต่อไป

อีกไม่กี่วัน !!! นปช.-กปปส. มาเจอกัน !?!?   "พล.อ.ประยุทธ์" มาเอง ไม่ขัดแย้ง ไม่มีการใช้อาวุธ ทั้งหมดคือ “สัญญาทางใจ” (รายละเอียด)

 

อีกไม่กี่วัน !!! นปช.-กปปส. มาเจอกัน !?!?   "พล.อ.ประยุทธ์" มาเอง ไม่ขัดแย้ง ไม่มีการใช้อาวุธ ทั้งหมดคือ “สัญญาทางใจ” (รายละเอียด)

ทั้งนี้ก็เป็นเสมือนการกระตุ้นจิตสำนึกความเป็นไทย ความรักชาติ และ “สัญญาทางใจ” ว่าเราจะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างไร เราจะร่วมกันสร้างสังคมที่เข้มแข็ง สังคมที่มีสันติสุขของเราได้อย่างไร ในอนาคต ประชาชนเป็นผู้กำหนดตรงนี้ ไม่ใช่นักการเมือง

 

อ้างอิงจาก เฟซ วาสนา นาน่วม