ลุ้นตัวโก่ง!!!! ขรก.สมช.เซ็ง คนนอกจ่อขึ้นหิ้งเป็นเลขาสมช.คนใหม่ ทั้งๆที่ไม่อยากมา แค่นายสั่ง รอฟังนายกว่าไง ทั้งที่ก่อนหน้า บอกเอง แต่งตั้

ในวันนี้ เวลา9.30น.จะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่มีพล.อ ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคสช.เป็นประธานการประชุม ปรากฎว่าการประชุมครั้งนี้ถูกจับตาเป็นพิเศษ เพราะในที่ประชุมจะมีการพิจารณาตัวบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติคนใหม่ แทน พล.อ ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงคนปัจจุบันที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้  ท่ามกลางกระแสข่าวคนนอกที่ชื่อกำลังมาแรงและเตรียมเข้าวินอย่าง พล.อ วัลลภ รักเสนาะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม ที่จะกระโดดข้ามจากกองทัพมานั่งเป็นเลขาสมช.ตามที่พล.อ ประวิตร หมายมั่นปั้นมือไว้

 

 

ขณะที่ชื่อของนาย สมเกียรติ ศรีประเสริฐ รองเลขาสมช. อาวุโสสูงสุดที่จ่อขึ้นตำแหน่งเลขาสมช.อาจต้องแห้ว แม้พล.อ ทวีปจะเสนอชื่อนาย สมเกียรติ เข้าชิงในตำแหน่งเลขาสมช.คนใหม่ก็ตาม  และที่น่าสนใจก็คือ สำหรับการเลือกและคัดสรรตำแหน่งเลขาสมช.หนนี้ จะถือเป็นครั้งแรกที่จะต้องมีการพิจารณาชื่อบุคคลผู้จะดำรงตำแหน่งเป็นเลขาสมช.คนใหม่ ตามพระราชบัญญัติสภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ 2559 ซึ่งก็หมายความว่า ชื่อเลขาสมช.คนใหม่จะต้องผ่านการคัดกรอง และ เห็นชอบจากคณะกรรมการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน  รองนายกรัฐมนตรี พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองประธาน และกรรมการประกอบด้วย รมว.กลาโหม  รมว.คลัง  รมว.ต่างประเทศ  รมว.คมนาคม  รมว.เทคโนโลยี่สารสนเทศและการสื่อสาร  รมว.มหาดไทย  รมว.ยุติธรรม  และ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด  ซึ่งผลการประชุมวันนี้ คงต้องจับตาไปที่นายกรัฐมนตรีที่เคยพูดไว้เมื่อวันที่11กค.ว่า หลักการของผมการแต่งตั้งโยกย้าย  ทุกคนจะต้องโตภายในแท่งของหน่วยงานตัวเอง ถ้าคิดแต่จะข้ามห้วย คนในห้วยก็ไม่ต้องไปไหนกัน จมน้ำตายกันอยู่ตรงนั้นหรือ ผมยืนยันไม่มีการข้ามห้วยทั้งสิ้น ถ้าจะมี ต้องมีเหตุผลและความจำเป็นอย่างยิ่งยวด  เพราะฉะนั้น จุดเปลี่ยนแปลงในการแต่งตั้งวันนี้ คงอยู่ที่ตัวนายกรัฐมนตรี และที่สำคัญในการประชุมก็ไม่เฉพาะสื่อที่เฝ้าจับตามอง แต่ยังรวมถึงคนในสมช.ก็กำลังเฝ้ามองดูเช่นกัน ว่ารัฐบาลจะนำคนในกองทัพข้ามห้วยมานั่งเป็นเลขาสมช. อีกครั้งหรือไม่ตามข่าวลือ และอะไรคือเหตุผล และ ความจำเป็น 

 

 

 

ซึ่งมีรายงานว่าขณะนี้ ข้าราชการในสมช.ต่างก็รอฟังคำตอบ ว่าที่ประชุมจะพิจารณาใคร? เป็นคนนอกหรือไม่ หากเป็น พวกเค้ารอเงี่ยหูฟังคำชี้แจงถึงเหตุผล ความจำเป็น และเริ่มมองว่ามาถึงวันนี้จากเหตุที่เกิด คงอธิบายได้ว่าไม่ว่ารัฐบาลที่มาจากการเมือง หรือ กองทัพ ก็ไม่ได้แตกต่างไปกว่ากัน กับการดึงคนของตนเองเข้ามา และแถมยังเป็นบุคคลที่ไม่ได้ต้องการ หรือตั้งใจจะเข้ามาอยู่ในตำแหน่งเลขาสมช. คงมาเพียงเพราะผู้บังคับบัญชาสั่งให้มา ขณะที่บุคคลที่โตมาตามสายงาน ก็ไม่มีโอกาสที่จะเติบโต อย่างกรณีนาย สมเกียรติ ที่ยังมีอายุราชการเหลืออีก2ปี และในสมช.ยังมีตำแหน่งว่างอีก1ตำแหน่งที่รอการแต่งตั้งคือรองเลขาสมช.