พม. จับมือ CP นำร่องโครงการส่งเสริมความร่วมมือประชารัฐ  เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรกรรม พื้นที่นิคมสร้างตนเอง

พม. จับมือ CP นำร่องโครงการส่งเสริมความร่วมมือประชารัฐ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรกรรม พื้นที่นิคมสร้างตนเอง

 

วันนี้ (28 ก.ค. 60) เวลา 11.00 น. นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง

ของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ลงพื้นที่นิคมสร้างตนเองห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือประชารัฐฯ และพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรกรรมในพื้นที่นิคมสร้างตนเองอย่างเป็นระบบ ณ นิคมสร้างตนเองห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี 

 พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า นโยบายกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ประจำปี 2560 ยึดหลักตามกรอบแนวทางการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และสร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ ตามนโยบายบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลด้านสังคม โดยใช้กลไกประชารัฐตามนโยบายรัฐบาลเพื่อเชื่อมโยงภาครัฐ ภาคเอกชน

และภาคประชาชน เข้ามีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม และประสานพลังในการแก้ไขปัญหาสังคมร่วมกัน ซึ่งกระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ

พ.ศ. 2511 ซึ่งมีเจตนารมณ์ เพื่อจัดสรรที่ดินแก่ราษฎรให้มีที่ดินเป็นของตนเอง มีอาชีพที่มั่นคง สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเข้าถึงบริการสวัสดิการสังคมของรัฐอย่างเท่าเทียม  โดยมุ่งเน้นส่งเสริมการเกษตรกรรมในพื้นที่นิคมสร้างตนเอง

 พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวง พม. มีแนวคิดจัดทำโครงการส่งเสริมความร่วมมือประชารัฐ  เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรกรรมในพื้นที่นิคมสร้างตนเอง โดยประสานความร่วมมือ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ภาครัฐ ได้แก่ พม. โดย พส. ภาคประชาสังคม ได้แก่ กลุ่มอาชีพเกษตรกรและสหกรณ์ชุมชน และ ภาคเอกชน ได้แก่ บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ สำหรับการลงสำรวจพื้นที่ในวันนี้ เพื่อศึกษาวิเคราะห์แนวทางจัดตั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ และพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรกรรมในพื้นที่นิคมสร้างตนเอง

 “ความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. ภาคประชาสังคม และบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในครั้งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนพลังประชารัฐ ให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมในระดับพื้นที่ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้มีความมั่นคง และยั่งยืนต่อไป” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย