- 03 ส.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
จากกรณีสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร(กทม.) แจ้งรายงานจากผู้บริหารกรุงเทพมหานครบอกเลิกสัญญางานจ้างเหมาซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์ดับเพลิงและกู้ภัย กทม. จำนวน 493 คัน กับบริษัท เทพยนต์ แอโรโมทีฟ อินดัสตรีส์ จำกัด หลังจากที่ขยายเวลาสัญญาซ่อม 2 ครั้ง โดยอ้างเรื่องปัญหาอุทกภัยปี54 ต่อมาบอกว่ามีปัญหาขาดสภาพคล่อง ซึ่งขณะนี้หมดระยะเวลาตามสัญญา แต่บริษัทผู้ดำเนินการยังทำการซ่อมบำรุงรถไม่เสร็จสิ้นยังไม่มีการเปลี่ยนยางรถดับเพลิงฯ 430 คัน ซึ่งกทม.ได้มอบหมายให้สำนักกฎหมายดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายแล้วด้วย
ก่อนหน้านี้นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการตรวจสอบสภาพรถและเรือดับเพลิง กทม.มูลค่ารวม 6,687 ล้านบาท ภายหลังคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศตัดสินให้บริษัทสไตเออร์ฯ จ่ายเงิน 20.49 ล้านยูโร หรือประมาณ 800 ล้านบาทให้แก่กทม. โดยรถดับเพลิงและรถกู้ภัย 176 คันที่ส่งมาล็อตแรกเมื่อปี 2549 ซึ่งจัดเก็บรักษาไว้ที่โกดังสินค้าของบริษัทเทพยนต์ แอโรโมทีฟ อินดัสตรีส์ ประเมินงบประมาณการซ่อมแซมรถดับเพลิงและรถกู้ภัย 176 คัน ค่าซ่อมแซมอยู่ที่ 183 ล้านบาท จึงได้เสนอสำนักงบประมาณจัดสรรงบกลางจำนวน 183 ล้านบาท เพื่อนำมาจัดซ่อมรถดับเพลิงและรถกู้ภัย
สำหรับคดีดังกล่าวย้อนไปเมื่อวันที่ 10 ก.ย.56 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาคดีเป็นที่สุดแล้ว โดย นายธานิศ เกศวพิทักษ์ รองประธานศาลฎีกาฯ เจ้าของสำนวนทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง ของ กทม.พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา รวม 9 คน ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาให้ นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ปี 2542 จากกรณีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงฯ ส่วน นายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย และนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และจำเลยที่เกี่ยวข้องศาลเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด พิพากษาให้ยกฟ้อง