- 04 ส.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://www.tnews.co.th
จากกรณีเมื่อวันที่ (3 ส.ค.) ที่ผ่านมา นางสาวเอ (นามสมมติ) ข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งใน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังจากทีได้จัดพิธีมงคลสมรสระหว่างตนกับนายชัชวาลย์ (ขอสงวนนามสกุล) ขึ้นที่บ้านของตน แต่นายชัชวาลย์กลับไม่เดินทางมาร่วมพิธีตามกำหนดนั้น
ซึ่งนางสาวเอระบุว่า ก่อนวันงาน นายชัชวาลย์ยังมาช่วยเตรียมงานจนดึกโดยไม่มีทีท่าว่าจะเบี้ยวขันหมาก ไม่มีสัญญาณบอกเหตุใด และเพิ่งออกจากบ้านไปเมื่อตอนตี 5 บอกแค่ว่าจะกลับไปบ้านเพื่อไปตามโต๊ะจีนที่จะมาจัดเลี้ยง โดยขับรถของตนออกไป แต่พอเช้านายชัชวาลย์กลับให้เจ้าของร้านสตูดิโอขับรถมาคืนที่บ้านเจ้าสาว แต่ตัวเองกลับหายไร้ร่องรอย กระทั่งถึงเวลาเข้าพิธีพระ นายชัชวาลย์ ซึ่งเป็นเจ้าบ่าว และญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวก็ไม่มีใครเดินทางมาถึงบ้านของเจ้าสาวเลยสักคน เจ้าสาวพยายามติดต่อทั้งทางโทรศัพท์ ไลน์ และเฟซบุ๊ก ก็ไม่สามารถติดต่อได้ แขกที่เชิญมาก็มากันเต็มไปหมด จนเวลาล่วงเลยไปจึงได้จัดพิธีทำบุญบ้าน และเลี้ยงแขกแทน
ทั้งนี้นางสาวเอได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิตที่ต้องทำให้พ่อแม่ผิดหวัง และยังทำให้เสียชื่อเสียงสร้างความอับอายแก่ครอบครัว เหมือนถูกทำลายชีวิต โดยเฉพาะทำให้เสียชื่อเสียง เนื่องจากตนเป็นข้าราชการแต่กลับต้องมาถูกหลอกลวง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี รายการทุบโต๊ะข่าว ได้เดินทางไปยังบ้านของนางสาวเอ (นามสมมุติ) ที่จังหวัดอุทัยธานี หลังต้องเป็นม่ายขันหมาก โดยนางสาวเอ ยังอยู่ในอาการซึมเศร้าและได้เปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตนเป็นผู้ตัดสินใจเองทั้งหมด คนรอบข้างก็มีทั้งนินทาและให้ความสงสาร เพราะสังคมมันก็มีทั้ง 2 ด้าน
เมื่อถามว่า ฝ่ายชายได้ติดต่อกลับมาบ้างไหม นางสาวเอ เผยว่า เขาติดต่อกลับมาทางเฟซบุ๊ก บอกว่า ยังรักตนอยู่แต่ที่ต้องหนีเพราะมีคนจะปองร้ายในวันงาน ถึงขั้นเอาชีวิต จึงขอหนีไปตั้งหลักก่อน ขอโทษกับสิ่งที่ทำ บอกไม่ได้ว่าหนีไปอยู่ที่ไหน ทั้งนี้ตนไม่เชื่อคำพูดของนายชัชวาลเพราะไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไป ทุกคนต้องหาเหตุผลมาทำให้ตัวเองรอดอยู่แล้ว ซึ่งตนพยายามพูดคุยดีๆ เพื่อที่จะให้มารับผิดชอบกับสิ่งที่ได้ทำลงไป
โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการจัดงาน และให้มาขอขมากับพ่อแม่ของตนด้วย ถ้ายังเป็นลูกผู้ชายพอก็สมควรที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป และจะไม่ขอใช้ชีวิตร่วมกันอย่างแน่นอน ขออโหสิกรรมให้ คิดว่าเป็นเวรกรรมที่สร้างกันมา ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายผู้จัดงานเพียงขอทุนคืนเท่านั้น และจะไม่แจ้งดำเนินคดี ซึ่งตนเองได้ให้คำแนะนำกับฝ่ายจัดงานให้ไปแจ้งความเพื่อจะได้ช่วยกันติดตามนายชัชวาล มาชดใช้และรับผิดชอบ
ขอบคุณ: รายการทุบโต๊ะข่าว