คิดถึงลูกใจจะขาด!! พ่อวอนสื่อช่วยตามลูกสาวหายตัวนานนับเดือน เผยก่อนเกิดเหตุมีหนุ่มมาติดพัน-พบข้อมูลโอนเงินแสนเข้าบัญชีคนมีสี?

ติดตามรายละเอียด : http://www.tnews.co.th

นายบุญเลิศ อายุ 62 ปี พร้อมด้วย นายบัวกัน อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.16 บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย เข้าร้องทุกข์ว่า น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี รับราชการในตำแหน่ง ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ ลูกสาวของนายบุญเลิศ ได้หายตัวไปพร้อมด้วยรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ปล่อยให้ลูกสาววัย 8 ขวบ อยู่กับพ่อและตายายมานานกว่า 1 เดือนแล้ว

 

คิดถึงลูกใจจะขาด!! พ่อวอนสื่อช่วยตามลูกสาวหายตัวนานนับเดือน เผยก่อนเกิดเหตุมีหนุ่มมาติดพัน-พบข้อมูลโอนเงินแสนเข้าบัญชีคนมีสี?

 

โดย นายบัวกัน กล่าวว่า หลานที่หายตัวไปได้แต่งงานกับนายวิทยา ที่ทำงานเป็นต้นหนเรือเดินทะเลและมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน โดยทั้ง 2 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ น.ส.จุฑาภรณ์ ไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน ในช่วงตอนเย็นของวันเดียวกันนั้น ก็ได้โทรศัพท์แจ้งให้ผู้เป็นพ่อไปรับลูกสาวแทนให้ด้วย หลังจากนั้นน.ส.จุฑาภรณ์ก็ได้หายตัวไปโดยไม่ยอมรับโทรศัพท์จากครอบครัวหรือญาติพี่น้องอีกเลย

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีนายทหารคนหนึ่งปฏิบัติหน้าที่ใกล้เขาพระวิหาร ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับ น.ส.จุฑาภรณ์ ทั้งที่นายทหารคนดังกล่าวมีภรรยาอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากที่ น.ส.จุฑาภรณ์ หายตัวไป จากการตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารของ น.ส.จุฑาภรณ์ พบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของแม่นายทหารคนดังกล่าวหลายครั้ง รวมทั้งยังพบข้อมูลมีการส่งแชทมาขอให้ทางญาติพี่น้องโอนเงินให้ครั้งละ 20,000 บาท จำนวนหลายครั้ง รวมแล้วเป็นเงินกว่า 300,000 บาท โดยที่ น.ส.จุฑาภรณ์ ไม่ยอมรับโทรศัพท์ของญาติพี่น้องแต่อย่างใด

 

ด้านนายบุญเลิศ กล่าวว่า ตนคิดถึงลูกสาวมาก เพราะว่าไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อนเลย เชื่อว่าลูกสาวอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากว่าขาดการติดต่อเป็นเวลานานกว่า 6 สัปดาห์ โดยปกติ น.ส.จุฑาภรณ์ เป็นคนที่รักลูกสาวมาก อีกทั้งก่อนหน้านี้เคยเข้าไปทวงหนี้กับคนมีสีคนหนึ่งที่ยืมเงินไปจำนวนมาก แต่ไม่ยอมส่งคืน เพราะมีพฤติกรรมในการติดการพนันฟุตบอลอย่างหนักและมีหนี้สินรุงรัง อีกทั้งขณะที่หายตัวไปมีการโอนเงินจากบัญชีของ น.ส.จุฑาภรณ์ เข้าบัญชีของคนมีสีดังกล่าวอีกด้วย

 

พ.ต.อ.ฉัตรพัฒน์ แก้วจันดี ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ทราบเบาะแสว่ารถเก๋งของ น.ส.จุฑาภรณ์ มีการโอนลอยเอาไว้ ไม่ทราบว่าเอาไปขายแล้วหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งดำเนินการสืบสวนอย่างเต็มที่ เพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ส่วนจะมีการเกี่ยวพันกับผู้ใดบ้างนั้น ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐานและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

ขอบคุณที่มา : Workpoint