ด่วนสุดๆ!!"บิ๊กตู่"จัดชุดใหญ่ใช้ม.44 รื้อพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตั้งคณะกรรมการปปง.ใหม่ เพิ่มปฏิบัติการเชิงรุกป้องการเมืองแทรกแซง

ติดตามรายละเอียดที่นี่ http://www.tnews.co.th

ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ได้จัดประชุมพิจารณาเรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กร โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้ทรงคุณวุฒิ จึงต้องปรับแก้เกี่ยวกับอำนาจของผู้ทรงคุณวุฒิให้ได้มาตรฐาน และไม่ให้การเมืองเข้ามาแทรก เพื่อปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ล่าสุด วันนี้ (8 ส.ค.)  เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๘/๒๕๖๐ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบและอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ระบุว่า...


"โดยที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นองค์กรที่มีความสําคัญในการป้องกันและปราบปรามการนําเงินหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดมากระทําการในรูปแบบต่าง  อันเป็นการฟอกเงิน เพื่อที่จะนําเงินหรือทรัพย์สินนั้นไปใช้ประโยชน์ในการกระทําความผิดต่อไปได้อีก สมควรปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบและอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อให้สามารถทําหน้าที่ตามกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทําอันเป็นการบ่อนทําลายความสงบเรียบร้อยความมั่นคงของชาติ เศรษฐกิจของประเทศ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๖๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับ มาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้

 

ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ๕)
พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา ๒๔ ให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินคณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่า “คณะกรรมการ ปปง.” ประกอบด้วย
(๑) ผู้ทรงคุณวุฒิจํานวนสี่คนซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นกรรมการ
(๒) ปลัดกระทรวงการคลังปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติอัยการสูงสุด ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เลขาธิการสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นกรรมการ
(๓) เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ
ให้คณะกรรมการทั้งสิบสี่คนเลือกกันเองเป็นประธานกรรมการคนหนึ่ง และรองประธานกรรมการอีกคนหนึ่ง โดยประธานกรรมการต้องได้รับคะแนนเสียงสองในสามของจํานวนกรรมการทั้งหมด ให้คณะกรรมการแต่งตั้งข้าราชการในสํานักงานจํานวนไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการกรรมการตาม (๒) อาจมอบหมายให้ผู้ดํารงตําแหน่งรองหรือตําแหน่งไม่ต่้ำกว่าระดับอธิบดีหรือเทียบเท่าซึ่งมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการมาเป็นกรรมการแทนก็ได้และเมื่อได้มอบหมายผู้ใดแล้วให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายนั้นเป็นกรรมการตาม (๒) แทนผู้มอบหมาย

 

ข้อ ๒ ให้ยกเลิกมาตรา ๒๔/๑ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๘
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความใน (๓) ของวรรคหนึ่งของมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

 

“(๓) กํากับดูแลและควบคุมให้คณะกรรมการธุรกรรมสํานักงานและเลขาธิการ
ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นอิสระและสามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งระงับหรือยับยั้งการกระทําใดของคณะกรรมการธุรกรรม สํานักงานและเลขาธิการที่เห็นว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการกําหนดระเบียบตามวรรคหนึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการด้วยคะแนนเสียงสองในสาม
ของจํานวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ และต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อนจึงจะใช้บังคับได้ ในระหว่างที่ยังไม่มีระเบียบตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการดําเนินการไปตามที่เห็นสมควร”

 

ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความใน (๓) ของวรรคหนึ่งของมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(๓) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๔/๒ หรือคณะรัฐมนตรีให้ออก”

 

ข้อ ๕ ให้บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินซึ่งดํารงตําแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับพ้นจากตําแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒินับแต่วันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับให้การดําเนินการเพื่อให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตามคําสั่งนี้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับในระหว่างที่ยังดําเนินการไม่แล้วเสร็จให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่
ข้อ ๖ ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้
ข้อ ๗ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป


สั่ง ณ วันที่ ๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ"

 

 

ด่วนสุดๆ!!"บิ๊กตู่"จัดชุดใหญ่ใช้ม.44 รื้อพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตั้งคณะกรรมการปปง.ใหม่ เพิ่มปฏิบัติการเชิงรุกป้องการเมืองแทรกแซง

ด่วนสุดๆ!!"บิ๊กตู่"จัดชุดใหญ่ใช้ม.44 รื้อพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตั้งคณะกรรมการปปง.ใหม่ เพิ่มปฏิบัติการเชิงรุกป้องการเมืองแทรกแซง