- 09 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 9 สิงหาคม 2560 ที่น้ำลำคลองสารเพชร ต.แหลมทอง อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา นาย เลิศพันธ์ สินบรรเลงเสนาะ นายอำเภอหนองบุญมาก ในฐานะตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยชาวบ้านตำบลแหลมทอง ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ข้าราชการและภาคเอกชน ร่วมกันปล่อยพันธ์สัตว์น้ำและปลูกหญ้าแพรก เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 58 พรรษา 12 สิงหคาม 2560 เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมุ่งมั่นและมีพระวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่ง ในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เป็นคุณประโยชน์แก่พสกนิกร ด้วยน้ำพระราชหฤทัยเปี่ยมล้นด้วยพระคุณธรรม และพระเมตตาธรรม นำความเจริญมาสู่บ้านเมืองในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการประมง ด้านอนุรักษ์ทรัพยากรประมง ที่ทรงมีพระราชดำริสำคัญ อาทิเช่น โครงการฟื้นฟูทะเลไทย การอนุรักษ์ปะการัง การสร้างแหล่งอาศัยให้สัตว์น้ำ หรือที่เรียกว่าปะการังเทียม ตลอดจนทรงมีพระราชดำริให้เพาะพันธ์ปลาไทย เพื่อขยายพันธุ์ให้กับประชาชน มีอาหารโปรตีนจากปลาบริโภคอย่างเพียงพอ จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงมีพระคุณต่อพสกนิกรอย่างล้นพ้นหาที่สุดมิได้
นาย สมชาย เจียรทิพย์วิไล ประมงจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า วันนี้หน่วยงานในสังกัดกรมประมง ของจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกับชาวบ้านในตำบลแหลมทอง อ.หนองบุญมาก และภาคเอกชน ได้คัดเลือกแหล่งน้ำคลองสารเพชร บ้านคลองสารเพชร แห่งนี้เป็นสถานที่ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำและปลูกต้นไม้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีพันธุ์สัตว์น้ำที่ปล่อย จำนวน 500,000 ตัว ประกอบด้วย ปลาตะเพียนขาว 100,000 ตัว ปลายีสกเทศ 300,000 ตัว ปลาตะเพียนทอง 100,000 ตัว โดยพันธุ์สัตว์น้ำที่ปล่อยในวันนี้จะให้ชาวบ้านช่วยกันดูแลให้เจริญเติบโตจนได้ขนาด แล้วจึงค่อยจับขึ้นมาเป็นอาหารต่อไป
ด้าน นาย เข็มทอง จันสีดา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.แหลอมทอง อ.หนองบุญมาก กล่าวว่า การจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในวันนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างโรงงานเอกชนในพื้นที่กับโดยการสนับสนุนของภาครัฐ ซึงเห็นถึงความสำคัญในการอาศัยอยู่ร่วมกันการพึงพาอาศัยกันระหว่างชาวบ้านกับโรงงาน จึงได้มีการจัดกิจกรรมข้นในครั้งนี้ สำหรับในพื้นที่ ต.แหลมทอง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ไร่นาแบบสวนผสม สามารถทำการเกษตรได้ทุกฤดูกาล โดยในหน้าแล้งก็ส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย เพื่อให้ชาวบ้านยังคงมีรายได้จากการเพาะปลูก ส่วนฤดูฝนก็ทำการเกษตรปกติซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเพาะปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ เป็นหลัก ส่วนนลำน้ำคลองสารเพชรแห่งนี้ เป็นลำน้ำจักราชและลำน้ำมูลมีระยะทางยาวไปจนถึงอำเภอพิมาย มีต้นน้ำอยู่ที่อำเภอหนองบุญมาก ถือเป็นสายน้ำหลักในการทำเกษตรกรรมของชาวบ้าน และชาวบ้านที่นี่มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 70,000 บาท ต่อคนต่อปี
ภาพ/ข่าว ไพฑูรย์ คาบพิมาย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครราชสีมา