- 10 ส.ค. 2560
ติดตามรายละเอียดที่นี่ http://www.tnews.co.th
(คลิกเพื่อชมคลิป)
จากกรณีนายธนบดี จิตตา อายุ 21ปี ทำธุรกิจซื้อขายรถมือสอง ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง อ้างถูกนายกันตพิชญ์ งามเอกกับพวก ก่อเหตุลักพาตัวขึ้นรถบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านถนนรัชดาภิเษก โดยมีการทำร้ายร่างกายแล้วบังคับข่มขู่ปล้นทรัพย์สินมูลค่ากว่า 3 ล้านบาทหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.
จากนั้นในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ร้ายได้ทั้งหมด 4 คน แต่ขณะที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาได้ตะโกนขอความเป็นธรรมว่าถูกนายธนบดีโกง และขอให้นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือเสี่ยโป้ ให้ช่วยเพราะเสี่ยโป้เคยถูกนายธนบดีโกงเช่นเดียวกัน (คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เอาละหว่า...คดีพลิก!? "เสี่ยโป้" แฉยับ! เคยถูก "ธนบดี" หลอกโกงเพียบแต่ยังลอยนวล ชี้ควรพูดความจริงก่อนเรื่องสายไป??)
ทั้งนี้ หลังจากได้มีการนำเสนอข่าวของนายธนบดี จิตตา ออกไป พบว่าผู้เสียหายอีกหลายรายเริ่มออกมาแสดงตัวว่าถูกนายธนบดีหลอกและโกงเงินไป เป็นมิจฉาชีพระดับประเทศ ประวัติมีหมายจับ 4 หมาย ทั้งลักทรัพย์ ฉ้อโกง โดยมีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นลูกหลานคนใหญ่คนโต หลอกขายรถหรู ป้ายทะเบียนเลขสวย ให้กับคนมีฐานะ บางรายถูกลักทรัพย์ ถูกหลอกโอนเงินจำนวนมาก จนเป็นมหากาพย์ที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์
ล่าสุด เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอัมรินทร์ทีวี ได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ส้ม (นามสมมติ) อายุ 28 ปี เหยื่อรายแรกของเสี่ยบีม หรือนายธนบดี ที่เป็นข่าวเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เล่าว่า รู้จักกับนายธนบดีจากเฟซบุ๊ก เนื่องจากนายธนบดีทักมาทำนองเหมือนจะจีบ จึงได้คุยเป็นเพื่อนไปโดยไม่ได้คิดอะไร จนวันหนึ่งตนอยากไปไหว้พระทำบุญ พร้อมอ้างว่าชอบทำบุญเหมือนกัน นายธนบดีก็ขับรถมารับซึ่งตนก็ตกลงไป ช่วงคืนวันดังกล่าวได้ไปทำบุญกันที่วัด เมื่อไหว้พระทำบุญกันเสร็จ ได้ไปแถวถนนข้าวสาร เพื่อกินข้าว อยู่ดีๆ นายธนบดีก็ถามตนว่า “ถ้าเราขโมยโทรศัพท์เธอตอนนี้ จะทำยังไง” ตนเลยบอกว่า “กระทืบดิ” เมื่อมาถึงร้าน นายธนบดีก็บอกตนให้เอากระเป๋าไว้ในรถ เพราะเดี๋ยวจะหาย แต่ตนไม่เอาไว้
จากนั้นเมื่อกินข้าวเสร็จก็เดินทางไปที่ลานพระบรมรูปทรงม้า นายธนบดีก็ยังย้ำว่าให้เอากระเป๋าไว้บนรถ เดี๋ยวจะหาย ตนก็หลงเชื่อวางกระเป๋าไว้ในรถแต่เอาโทรศัพท์ลงมา เพื่อที่จะเอามาถ่ายรูป ช่วงที่กำลังไหว้ ร.5 อยู่นั้น นายธนบดีบอกว่าให้เอาโทรศัพท์ไว้กับตนพร้อมกับแสดงความห่วง ตนจึงฝากโทรศัพท์ไว้ เมื่อหันไปอีกทีก็ไม่เห็นนายธนบดี พอตนขอยืมโทรศัพท์คนอื่นโทรศัพท์เข้าหาเบอร์ของตน ปรากฏว่าได้ถูกปิดเครื่องไปแล้ว
ส่วนทรัพย์สินที่ถูกนายธนบดีขโมยไป รวมแล้วมูลค่ากว่า 5 หมื่นบาท จึงเข้าแจ้งความที่ สน.ดุสิต เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้ จากนั้นเพื่อนของตนเล่าว่ามีเบอร์โทรศัพท์เครื่องที่นายธนบดีขโมยไป ส่งข้อความหาตนว่า อยู่ไหน จึงตัดสินใจโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของตน เล่าเรื่องราวแฉพฤติกรรมของนายธนบดี ซึ่งทางดีเจพล่ากุ้ง และนักแสดงชื่อดังที่เป็นเพื่อนตนได้ช่วยกันแชร์เรื่องราวที่โพสต์ หลังจากนั้นนายธนบดีก็ได้ส่งข้อความมาหาตนว่า “สู้ๆ นะคะทาเคชิ” , ตนจึงส่งข้อความกลับไปว่า “ถ้าจับมึงไม่ได้ไม่ใช่กู” นายธนบดีก็ได้ตอบกลับวา “น่ากลัวจังเลย” จากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อจากนายธนบดีอีก จนต่อมารู้ว่าตำรวจได้มีการไล่ล่าตามจับตัวนายธนบดี
"สำหรับที่ออกมาพูดในวันนี้ เพราะต้องการช่วยเหลือเหยื่อรายอื่น ๆ ที่เคยโดนกระทำแบบเดียวกับตน เนื่องจากเชื่อว่ายังมีอีกหลายรายที่โดนแบบนี้ ซึ่งนายธนบดีเป็นบุคคลอันตราย จากที่เคยขโมยสิ่งของเล็ก ๆ ตอนนี้กลายเป็นก่อคดีรถหรูเยอะแยะมากมาย ซึ่งอยากให้ถูกตำรวจจับซักที" น.ส.ส้ม กล่าว
ขณะที่ทาง ดีเจพล่ากุ้ง หรือนายวรชาติ ธรรมวิจินต์ นักแสดง-นักร้อง-ดีเจชื่อดัง กล่าวว่า ไม่เคยรู้จักกับนายธนบดีมาก่อน และไม่เคยเจอตัวมาก่อน พร้อมกันนี้ พล่ากุ้งได้เปิดเผยถึงที่มาของการแชร์โพสต์ของหญิงสาวผู้เสียหายที่เคยโดนนายธนบดีหลอกว่า ผู้เสียหายรายนี้คือเพื่อนของตน ที่ชื่อส้ม (นามสมมติ) ตนจึงตัดสินใจโพสต์รูปนายธนบดี พร้อมรถคันที่ขับมาก่อเหตุ เพื่อตามหาเบาะแส หลังจากนั้นนายธนบดีก็ได้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวมาเเสดงความคิดเห็นเชิงข่มขู่ว่า “อย่ามายุ่งเรื่องนี้ เดี๋ยวเจอกัน” ตอนนั้นตนได้แสดงความคิดเห็นตอบโต้กลับไปเล็กน้อย แต่จำรายละเอียดไม่ได้ ทราบว่ามีเจ้าทุกข์ของนายธนบดีมาให้ข้อมูลอีกจำนวนมาก
"ตนคิดว่า นายธนบดีน่าจะไม่เข็ด แล้วพบว่ายังก่อเหตุซ้ำซาก มีผู้เสียหายเยอะขึ้นกว่าเดิม โดยพฤติการณ์ยังคงคล้ายลักษณะเดิม ตนจึงอยากให้คนที่ทำความผิดได้รับโทษ การที่นายธนบดีอ้างว่ารู้จักตนนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าอ้างชื่อคนอย่างชัช เตาปูนได้ ก็สามารถอ้างว่าเป็นเพื่อนพล่ากุ้งได้ไม่ยาก จะพูดอะไรก็ได้ อ้างว่าเป็นน้องบารัค โอบาม่าก็คงได้" ดีเจพล่ากุ้ง กล่าว.
ชมคลิปรายการได้ที่นี่...