- 16 ส.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/
จากกรณี รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านทาง Facebook ส่วนตัว ต่อตระกูล ยมนาค ซึ่งเป็นรูปของพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง ที่ถูกบูรณะใหม่จนกลายเป็นโทนสีขาว พร้อมระบุข้อความว่า...
"บูรณะแบบไหน ถึงมาแปลงโฉมพระปรางค์ วัดอรุณ เป็นโทนสีขาว แกะกระเบื้องหลากสีจากจานเคลือบสีโบราณล้ำค่าหายออกไปแล้ว ทำแบบนี้ทำไม ? ใครรู้ช่วยตอบด้วย" เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นอย่างหนักในโลกออนไลน์กับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวัดที่อยู่คู่กับคนไทยมากว่า 100 ปี เช่นเดียวกับหม่อมเจ้าจุลเจิมยุคล ที่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ (คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ฟ้องคนไทยทั้งประเทศ!! "ม.จ.จุลเจิม" โพสต์เศร้าใจ การบูรณะองค์พระปรางค์วัดอรุณฯ "กรมศิลปากร" สุดชุ่ย แปลงสมบัติล้ำค่าแผ่นดิน..ได้อัปลักษณ์มาก!?!)
ล่าสุด เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว วันนี้ (16 ส.ค.) พระมหาบุญส่ง สิริโชติ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ได้พาทีมข่าวเข้าตรวจสอบองค์พระปรางค์ พร้อมกับอธิบายว่าตามที่เป็นข่าวในสื่อโซเชี่ยลนั้นว่ามีการเอากระเบื้องเก่าที่มีลวดลายงดงามออกไปนั้นและยืนยันว่าไม่เป็นความจริง วัดอรุณฯ ยังเป็นโบราณสถาน ที่ผ่านมาในช่วง 50 ปีทางกรมศิลปากร ได้เข้ามาบูรณะองค์พระปรางค์ไปแล้ว 3 ครั้ง รวมครั้งนี้ด้วยที่ทางกรมศิลปากรได้เข้ามาเริ่มบูรณะเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 และเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 15 เดือนกค.ที่ผ่านมา ไม่มีช่างเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างไร
พระมหาบุญส่ง กล่าวอีกว่า ส่วนภาพที่มีการนำไปลงเปรียบเทียบเป็นองค์ยักษ์ ที่มีลวดลายของกระเบื้องลดน้อยลงไป เป็นเพราะผู้โพสต์ได้นำภาพองค์ยักษ์ ใต้ฐานพระปรางค์องค์หลักไปเปรียบเทียบกับองค์ยักษ์ใต้มณฑปทิศ (ที่มีอยู่ 4 ด้าน) ที่มีลวดลายน้อยกว่า ส่วนพื้นที่ว่างโดยทั่วไปที่มองว่าออกโทนสีขาว เป็นเพราะเมื่อทำการบูรณะเสร็จใหม่ๆ เนื้อปูนก็จะมีสีขาว แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ 3-5 ปีก็จะเปลี่ยนสภาพไปเป็นสีเขียวเหมือนเดิม เนื่องจากผลจากเชื้อราและตะไคร้น้ำเกาะ.