- 17 ส.ค. 2560
ครอบครัวยังมีหวัง!! เจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ จุดสุดท้ายก่อนสัญญาณโทรศัพท์จะตัด พบเสื้อเปื้อนเลือด ด้านสามียันไม่ใช่ของภรรยาเเน่นอน !?!
จากกรณีที่ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี รับราชการตำแหน่ง ผู้อำนวยการ (ผอ.) กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมรถยนต์เก๋ง ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังจากนั้นทางด้านผู้เป็นพ่อ ได้เข้าแจ้งความและร้องทุกข์ กับสื่อมวลชนเพื่อตามหาลูกสาวที่หายไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ไปพบว่ารถเก๋งของ น.ส.จุฑาภรณ์ ถูกนำเอาไปขายและนำไปทำสีอยู่ที่อู่รถแห่งหนึ่งใน จ. อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่เร่งติดตามค้นหาตามจุดต่างๆ ที่มีการตรวจพบสัญญาณโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายก่อนหายตัวไปนั้น
คืบหน้าล่าสุด (16 สิงหาคม 2560) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย พร้อมด้วยนายสุทัศน์ชัย กลมไธสง ร่างทรงที่ทางครอบครัวของ นางสาวจุฑาภรณ์ ติดต่อให้เข้าช่วยตามหาที่บริเวณลำห้วยผึ้ง ภายในอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่พบสัญญาณโทรศัพท์ ตรงบริเวณอ่างเก็บน้ำพลานเสือตอนล่าง ห่างกับอ่างเก็บน้ำพลานเสือตอนบนที่เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ได้ค้นหาไปแล้วก่อนหน้านี้
ชมคลิป
เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบพบวัดร้างตั้งอยู่กลางป่า แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ ก่อนจะมาพบซองบุหรี่ 1 ซอง ตกอยู่ตามข้างทาง และเสื้อสีขาวในสภาพเก่า มีรอยเปื้อนสีน้ำตาลคล้ายรอยเลือดและมีรูทะลุกลางหลังคล้ายการถูกแทง ทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บนำมาให้นายวิทยา เกษแก้ว สามีของนางสาวจุฑาภรณ์ ตรวจสอบดูว่าใช่เสื้อของภรรยาหรือไม่ แต่เจ้าตัวยืนยันว่าเสื้อตัวนี้ไม่ใช่เสื้อของภรรยาตัวเองที่หายตัวไป
ด้าน นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของนางสาวจุฑาภรณ์ เผยว่า หากยังไม่เจอศพลูกสาว ตนเองก็ยังเชื่ออยู่ว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ "ก็ตราบใดที่ยังไม่เห็นตัวก็ถือว่ายังมีชีวิตอยู่ ผมเชื่อว่าในจุดโทรศัพท์ คนที่มันฆ่าลักษณะนี้มันไม่เอาไปตามจุดโทรศัพท์หรอก ตนยังเป็นห่วงลูกอยู่ เพราะคนเป็นพ่อ" หัวอกผู้เป็นพ่อกล่าว
นอกจากนี้ คุณอุไรวรรณ เพื่อนสนิทของนางสาวจุฑาภรณ์ เผยว่า ก่อนที่เพื่อนจะหายตัวไป ได้มีนายทหารนายหนึ่งยศร้อยเอกเข้ามาตีสนิทตั้งแต่เมื่อช่วงวันที่ 3 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว โดยมีการเข้ามาขอยืมเงินนางสาวจุฑาภรณ์หลายครั้ง ครั้ง ตนเองก็ได้มีการตักเตือนไปว่าให้ระวัง เพราะดูไม่ชอบมาพากล และทางนางสาวจุฑาภรณ์ ก็เริ่มที่จะตีตัวออกห่างแล้ว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา นางสาวจุฑาภรณ์ได้มีการไลน์มาหาตนให้ไปเป็นเพื่อนเพื่อไปร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาของนายทหารนายนี้ เนื่องจากมีการทวงเงินคืนแต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง แต่ตนเองติดธุระจึงไม่ได้ด้วย ตนเองจึงคิดว่านี้อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการหายตัวไปของนางสาวจุฑาภรณ์หรือไม่ หลังการหายตัวไปของนางสาวจุฑาภรณ์ ตนเองก็เริ่มมีการฝันเห็นนางสาวจุฑาภรณ์มานั่งก้มหน้าอยู่ที่หน้าบ้าน และใช้มือตะกุยดิน ตนก็ได้มีการเรียกให้เขาเข้าบ้าน แต่ไม่เข้า ก่อนที่จะสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV