บานปลายแล้ว “ศึก 2 บล.” ฟ้องปปง. !!! “ม.ล.ปานเทพ” จัดหนัก “บล.หยวนต้า” หลายข้อหาโยงฟอกเงิน สงสัยอินไซด์ข้อมูล MBKET แฝงผลประโยชน์??

ติดตามรายละเอียดที่นี่ http://www.tnews.co.th

ท่ามกลางกระแสปั่นป่วนว่าด้วยหลักธรรมาภิบาลและจรรยาบรรณวงการบริษัทหลักทรัพย์ สืบเนื่องจากปัญหาระหว่าง บริษัทเมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET ฟ้องร้องบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ว่าด้วยกรณี หยวนต้า ถูกกล่าวหาเรื่องการขโมยข้อมูล และดึงเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนกว่า 200 รายไปเป็นพนักงาน  ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ MBKET แต่กลายเป็นว่ากรรมการกลางอย่าง  สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หรือ ASCO กับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็ไม่สามารถทำให้กรณีนี้เกิดความเป็นธรรมได้อย่างที่ควรจะเป็นกับทุกฝ่าย

ล่าสุดเหตุกรณีความขัดแย้งระหว่าง MBKET กับ หยวนต้า กำลังลุกลามบานปลายจนคาดเดาได้ยากว่าบทสรุปสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร ในขณะที่หน่วยงานรับผิดชอบยังลอยตัวเหนือปัญหา  และปล่อยให้บริษัทสมาชิกต้องบริหารจัดการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเอง

โดยเฉพาะกับกรณี  ม.ล. ปานเทพ เทวกุล ในฐานะผู้ถือหุ้น และตัวแทนผู้ประสานงานผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET ได้ระบุผ่านเอกสารเรียนแจ้งถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. พร้อมกับส่งสำเนาหนังสือถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำของ บล.หยวนต้า รวมทั้งกรรมการผู้บริหาร และพนักงาน ว่าเป็นพฤติการณ์ที่เข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงินหรือไม่?

 

 

สืบเนื่องจากที่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ถูก บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งในคดีดำหมายเลข พ.2831/2560 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2560 โดยมีนายมนตรี ศรไพศาล เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก MBKET ในฐานะโจทก์ และนางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ตกเป็นจำเลยที่ 1 ในข้อหาหรือฐานความผิดละเมิด เรียกค่าเสียหาย 578 ล้านบาท

 

 

บานปลายแล้ว “ศึก 2 บล.” ฟ้องปปง. !!! “ม.ล.ปานเทพ” จัดหนัก “บล.หยวนต้า” หลายข้อหาโยงฟอกเงิน สงสัยอินไซด์ข้อมูล MBKET แฝงผลประโยชน์??

 

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560 ม.ล. ปานเทพ เทวกุล ในฐานะผู้ถือหุ้นและตัวแทนผู้ประสานงานผู้ถือหุ้นรายย่อยของ MBKET ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ตรวจสอบการกระทำของ 1.นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ 2.นายภูริภัทร เขียวบริบูรณ์ 3.นางสาวสิทธิพร แสงพุ่ง 4.นายภูษิต แก้วมงคลศรี 5.นายอติ อติกุล และ บล. หยวนต้า รวมไปถึงคณะกรรมการซึ่งประกอบไปด้วย 1.นายชาญศักดิ์ ธนเตชา 2.นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ 3.Mrs. Ai Khim Tay 4.Mr. Pei-San Tan 5.Mr. Cheow Kheng Ong 6.Mr. Chi-Chang Chen 7.นายภูษิต แก้งมงคลศรี 8.Mr. Tai-Yuan Tai 9.Mr. Ronald Anthony Ooi Thean Yat

 

 

โดยหนังสือฉบับดังกล่าว ม.ล.ปานเทพ  บรรยายข้อสงสัยที่ได้ร้องเรียนต่อผู้บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ว่ามีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายความผิดมูลฐานการฟอกเงินหรือไม่ พร้อมทั้งส่งสำเนาหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในวันเดียวกัน หนังสือฉบับดังกล่าวประทับรับเรื่องจาก 2 หน่วยงาน คือ ปปง. รหัสรับเรื่องหมายเลข 0609 และกองอำนวยการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 รหัสรับเรื่องร้องทุกข์เลขที่ รปช. 3353 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

โดยทางผู้ร้องทุกข์ตั้งข้อสงสัยว่า บล. หยวนต้า ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งตามกฏหมายไทย มีวัตถุประสงค์หลักในการประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และมีรายได้จากการประกอบธุรกิจจากการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ได้นำข้อมูลภายในของ MBKET จาก นางบุญพรฯ นายภูริภัทรฯ นางสาวสิทธิพรฯ นายภูษิตฯ และ นายอติฯ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเอง ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และส่งผลกระทบต่อ MBKET โดยตรง ซึ่ง ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2560  พบว่ามีลูกค้าจำนวนมากกว่า 261 ราย ได้ย้ายบัญชีการลงทุนซื้อขายหุ้น ออกจาก MBKET ไปยัง บล. หยวนต้าฯ เป็นมูลค่ารวมประมาณ 3,040,652,795 บาท จนทำให้ MBKET ได้รับความเสียหายในโอกาสประกอบธุรกิจคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 555,000,000 บาท และส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2560 มีกำไรสุทธิเพียง 119.04 ล้านบาท ลดลง 61.10 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 33.92 เมื่อเปรียบเทียบกับผลประกอบการช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 180.14 ล้านบาทโดยข้อสงสัยดังกล่าวมีดังนี้คือ

 

 

1.มีการกระทำความผิดที่วางแผนไว้ล่วงหน้า โดยร่วมกันเป็นขบวนการ เพื่อให้ได้ข้อมูลทางการค้าที่สำคัญและเป็นความลับทางธุรกิจไป และถือว่าเป็นทรัพย์สินอันสำคัญของบริษัท MBKET ซึ่งน่าจะเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์ ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 334 และมาตรา 335 ความผิดฐานรับของโจร ตามาตรา 357 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 215 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และมาตรา 307, 308, 309, 311, 313, 314, และมาตรา 316 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

 

2.มีการร่วมกันกระทำการใดๆ เพื่อมิให้เกิดการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม และมีผลเป็นการทำลาย ทำให้เสียหาย ขัดขวาง กีดกัน หรือจำกัดการประกอบธุรกิจของบริษัทหลักทรัพย์ MBKET เพื่อมิให้สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ หรือ ต้องล้มเลิกการประกอบธุรกิจ ซึ่งน่าจะเป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542

 

 

จากประเด็นปัญหาดังกล่าวจึงทำให้  ม.ล. ปานเทพ  ตัดสินใจเข้าร้องเรียน ปปง. และ สำนักนายก ด้วยตนเอง เพราะเห็นว่า กรณีฟ้องร้องระหว่าง MBKET และหยวนต้า ไม่คืบหน้า และทางการยังคงไร้บทลงโทษในเรื่องนี้ จึงขอให้ตรวจสอบการกระทำทั้งหมดของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่า ได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์และรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่ และได้ทำกระทำการทุจริตตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ หรือกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งกระทำโดย กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบหรือได้รับประโยชน์ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานของสถาบันการเงินหรือไม่ และตรวจสอบพฤติการณ์ทั้งหมดของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่าเป็นพฤติกรรมที่เป็นความผิดมูลฐานที่ถือว่าเป็นความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่??

 

 

ขณะที่  นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. หยวนต้า (ประเทศไทย)  ยังคงยืนยันว่า  บริษัทได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด มีการนำส่งงบการเงินและรายงานข้อมูลสำคัญตามกฎหมายกำหนด และมีสำนักงาน ก.ล.ต. และสำนักงาน ปปง. มาตรวจสอบตามแผนงานอย่างสม่ำเสมอ พร้อมยืนยันบริษัทมีการทำงานอย่างโปร่งใส ไม่มีพฤติกรรมใดใดที่เข้าข่ายเป็นการฟอกเงิน และบริษัทมีนโยบาย ขั้นตอน ระเบียบการทำงานที่มีมาตรฐานเป็นไปตามกฎหมายกำหนด

 

 

“ประเด็นดังกล่าวเป็นข่าวเดิมที่บริษัทเคยชี้แจงไปแล้วแต่ถูกนำเสนอใหม่ทำให้นักลงทุนสับสน จึงขอให้ลูกค้าทุกท่านมั่นใจ ว่าบริษัทไม่ได้มีส่วนร่วมใด ๆ และบริษัทไม่มีพฤติกรรมใด ๆ ที่เข้าข่ายการฟอกเงินอย่างแน่นอน และพร้อมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงาน ปปง.ต่อไป”

 

 

พร้อมกันนี้ ผู้สื่อได้ติดต่อสอบถามไปยัง บริษัทหลักทรัพย์ MBKET ในกรณีที่ ม.ล. ปานเทพ เข้ายื่นเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าว "ทางบริษัทหลักทรัพย์ MBKET ไม่ได้รับทราบเรื่องมาก่อน และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นในเรื่องดังกล่าว ทาง ม.ล. ปานเทพ ไม่ได้ติดต่อมายังบริษัทฯ และบริษัทฯ ก็ได้รับทราบข่าวสารจากหน้าหนังสือพิมพ์เท่านั้น"