- 17 ส.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด : www.tnews.co.th
กรณีการตรวจเลือดแล้วปรากฎผลผิดพลาดเคยเกิดขึ้นให้เห็นมาแล้ว อย่างครั้งก่อนที่สาววัย 23 ปี ต้องทุกข์ทนมานานถึง 19 ปี หลังหมอตรวจผลบเลือดผิด ทำให้เข้าใจมาตลอดว่าป่วยเป็นโรคเอดส์ ต้องถูกสังคมรังเกียจรุนแรง ล่าสุดก็มีหนึ่งอีกเคส ที่ต้องรับความทุกข์ใจ หลังหมอตรวจผลเลือดผิดพลาด ซึ่งเกษตรกรหลายหนึ่งได้ทำเรื่องยื่นกู้เงินมาทำธุรกิจเกษตร และต้องมีการใช้ผลตรวจสุขภาพ ผลเลือด มายื่นกับทางประกันเจ้าของวงเงิน แต่ผลออกมาว่าตนนั้นติดเชื้อเอชไอวี ทำให้ผู้คนรอบข้างรังเกียจ ชีวิตตกอับย่ำแย่ ก่อนจะไปตรวจซ้ำที่รพ.อีกหลายแห่ง แล้วพบว่าไม่ได้ติดเชื้อดังกล่าว
โดยเพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ ได้เล่าเรื่องราวระบุว่า "#เกษตรกรตัวอย่างจะกู้เงิน #เลยตรวจเลือดกับรพเอกชนชื่อดัง #ผลออกมาเป็น HIV. #ตรวจซ้ำอีกทีก็มีเชื้อ #ชีวิตตกอับย่ำแย่จะฆ่าตัวตาย #เลยไปตรวจซ้ำอีกหลายรพ. #ผลว่าไม่ได้เป็น #กลับไปรพเดิมขอแก้ผลตรวจไม่ให้ประวัติเสีย #รพไม่ยอมและไม่รับผิดชอบอะไรเลย ผมชื่อชาตรี เตี้ยบัวแก้ว เป็นผู้นำชุมชนแห่งหนึ่ง ทำอาชีพการเกษตร ทำไร่ ทำสวน พอดีผมมีโครงการที่จะซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อจะขยายธุรกิจ ก็เลยไปกู้เงินที่ธนาคาร ทางธนาคารให้ผมทำประกันไว้เพื่อวันนึงผมไม่มีชีวิตอยู่ ประกันจะได้คุ้มครองวงเงินทีกู้ไว้ ทางประกันให้ผมไปตรวจสุขภาพตามข้อกำหนดผู้เอาประกัน ผมจึงทำตามคำแนะนำของประกัน โดยประกันมีโรงพยาบาลมาให้เลือก 2 แห่ง หนึ่งในนั้นอยู่ใกล้บ้านผม
ผมจึงเลือกรพ.ที่อยู่ใกล้บ้าน แถวถนนศรีครินทร์ เพราะเห็นว่าเป็นรพ.ที่มีมารตฐานสูง ผมเดินทางไปตรวจพร้อมกับภรรยาในวันที่ 25 ธันวาคม ปี 58 ซึ่งผมตรวจคนเดียว ณ ตอนนั้น ผลที่ออกมาหมอบอกผมเป็น HIV แต่ทางคุณหมอขอตรวจซ้ำอีกรอบ เพื่อความชัดเจน และอีกห้าวันให้มาฟังผล สุดท้ายหมอฟันธงว่าผมมีเชื้อ HIV เหมือนครั้งแรกที่ตรวจ และส่งตัวต่อให้หมอเฉพาะทางรักษาทันที
แต่ผมปฎิเสธการรักษาจากทางรพ.นั้น ซึ่งตอนนั้นผมรู้ช็อกมากๆ ครับ เดินออกจากรพ.จะให้รถชนตายไปเลยดีกว่า ดีกว่าตกนรกทั้งเป็น โชคดีที่ภรรยาผมดึงไว้ หลังจากนั้นทางประกันทราบผลจากรพ.นั้นๆ ทางประกันจึงให้เปลี่ยนชื่อผู้กู้ เป็นภรรยากู้แทน เลยต้องไปตรวจร่างกายใหม่ ซึ่งคราวนี้ไปตรวจที่โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ในเดือนมกราคมปี 59 ผมจึงขอตรวจพร้อมกับภรรยาด้วย ซึ่งผลที่ออกมาผมไม่มีเชื้อ HIV แต่ด้วยความที่เราอยากได้ความมั่นใจ วันที่ 10 เดือนมีนาคม ปี 59 ผมก็ไปตรวจอีกครั้งที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งผลที่ออกมาเป็นลบ ผมไม่มีเชื้อHIV แต่ผมอยากเคลียร์ตัวเองว่าเราไม่ได้เป็นจริงๆ ก็เลยไปตรวจที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ในวันที่16 เดือนมีนาคม
#ผลออกมาว่ามีค่าเป็นลบ (น่าจะหมายถึงว่าไม่มีเชื้อ) ผมก็เลยกลับไปตรวจซ้ำอีกครั้งที่ โรงพยาบาลรามาธิบดี ในเดือนมิถุนา 59 และ #ผลออกมาว่าผมไม่ได้ติดเชื้อHIV พอผลออกมาแบบนั้นผมก็ให้ทนายเป็นคนเดินเรื่องให้ เวลาผ่านไป 1 ปี ทนายความบอกว่าเรื่องนี้ยังไงเราก็แพ้ ผมยิ่งงงไปหมด ผมหาทางออกไม่ได้ ลูกชายก็กำลังเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อย และเราก็อยากจะแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราไม่ได้เป็นเอดส์ แต่เมื่อทนายแจ้งมาแบบนี้ผมก็ตัดสินใจ
ผมเข้าไปพบทางรพ.เดิมที่ตรวจและกล่าวอ้างว่าผมเป็นHIVเอง และได้มีการพูดคุยกับทางรพ.ว่าให้รับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น และให้แก้ผลตรวจ แต่ทางรพ.กลับแจ้งว่า #ทางรพ.ของเราเครื่องไม้เครื่องมือได้มารตฐานคงแก้ผลให้ไม่ได้ และบอกว่าการตรวจอาจมีผิดพลาดบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่คุณไม่ได้มีเชื่อhiv ก็ดีแล้วน ยินดีด้วย ผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เป็นธรรมกับผมเลย ทางรพ.นั่น จะให้ผมตรวจซ้ำกับเค้า แต่ผมปฎิเสธ เพราะที่ผ่านมาก็เหมือนกับตกนรกทั้งเป็นแล้ว คงไม่กล้าตรวจกับทางเค้าซ้ำอีก
สุดท้ายเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ปี 60 (เมื่อวาน) ผมก็เลยตัดสินใจไปตรวจที่คลินิกนิรนาม สภากาชาดไทย ผลยืนยันเป็นลบ บอกว่าผมไม่ได้ติดเชื้อ HIV ซึ่งที่ผ่านมาชีวิตผมพังพินาศ ทนทุกข์ทรมานมานานกว่า 2 ปี ผมจึงอยากขอความเป็นธรรมว่าทาง โรงพยาบาลที่ตรวจผิดพลาด จะรับผิดชอบอะไรบ้าง เพราะผมให้เขาแก้ไขผลตรวจให้ เขาก็ยืนยันว่าเครื่องไม้เครื่องมือของเขามีมาตรฐาน แล้วเป็นแบบนี้ชีวิตผมจะเป็นยังไงต่อไป หรือ ผลตรวจแบบนี้จะไปเกิดขึ้นกับใครต่อจากผมอีกหรือไม่ และถ้าเกิดขึ้นอีก ใครจะรับผิดชอบครับ
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : แหม่มโพธิ์ดำ