ด่วนที่สุด !!! "จตุพร" โดนอีกแล้ว !!! คราวนี้คุก 3 เดือน หมิ่น"กอร์ปศักดิ์"

ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษา ในคดีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาท

 

คดีนี้ โจทก์ฟ้องจำเลยแถลงว่า ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนยืนยันว่า โจทก์เดินทางไปราชการที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนและคัดค้านการก่อสร้างอาคารศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาปาย เพราะโจทก์รวมถึงผู้คัดค้านทุกคนต่างมีธุรกิจโรงแรมใกล้เคียงบริเวณดังกล่าว โดยอ้างว่า การสร้างศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาปาย บนที่ดินราชพัสดุแปลงเดิม ซึ่งเป็นบริเวณถนนคนเดินจะทำให้กระทบการท่องเที่ยวของอำเภอปาย

 

โดยโจทก์ยอมรับว่า มีโรงแรมที่อำเภอปาย โดยภริยาของโจทก์เป็นผู้จัดการ การแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงโดยมีเจตนาทำให้บุคคลอื่นที่ได้รับฟังเข้าใจว่า โจทก์ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและเป็นนักการเมืองมีพฤติกรรมที่ใช้อำนาจแทรกแซงการบริหารงานของศาลยุติธรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อไม่ให้มีการก่อตั้งศาลในที่ดินที่ได้รับอนุญาตและโจทก์มีผลประโยชน์ทับซ้อน แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนโดยใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย

 

นอกจากนี้จำเลยยังแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกล่าวหาโจทก์ว่า โจทย์ทำสัญญาให้คนต่างชาติชาวอังกฤษเช่าบ้านเดือนละ 4 แสนห้าหมื่นบาท แต่ด้วยความไม่สุจริต โจทก์ทำสัญญาแยกเป็น 3 สัญญาคือสัญญาเช่าบ้าน สัญญาเช่าเฟอร์นิเจอร์ และสัญญาบริการ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีในอัตราสูงและโจทก์โกงค่าไฟฟ้าคนต่างชาติชาวอังกฤษดังกล่าว

 

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คดีมีมูลให้ประทับ ฟ้องจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดจำคุก 4 เดือนและปรับ 8,000 บาททางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้เหลือ 1 ใน 4 คงจำคุก 3 เดือนและปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาโดยย่อได้ใจความในหนังสือพิมพ์ข่าวสดมติชนไทยรัฐและเดลินิวส์เป็นเวลาติดต่อกัน 7 วันโดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา

ต่อมา จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง แต่โจทก์ยื่นฎีกา ศาลฎีกาได้พิพากษา ว่า ขณะเกิดเหตุโจทก์ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่กำกับดูแลและบริหารงานด้านเศรษฐกิจของประเทศ ย่อมต้องดำรงตนโดยมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง การแถลงข่าวของจำเลยในส่วนนี้จึงเป็นกรณีที่จำเลยประสงค์จะตรวจสอบพฤติกรรมของโจทก์ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของโจทก์ในการบริหารราชการแผ่นดิน อันเป็นปกติวิสัยที่จำเลยซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคฝ่ายค้านและมีหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติงานของฝ่ายรัฐบาลจะต้องนำเรื่องดังกล่าวมาแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนเพื่อให้สื่อมวลชนและประชาชนทราบ

 

การแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนของจำเลยในส่วนนี้จึงเป็นการแสดงความเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม การกระทำของจำเลยในส่วนดังกล่าว ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 วงเล็บ 3 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในการแถลงข่าวของจำเลยส่วนนี้ชอบแล้ว

 

ส่วนในกรณีที่กล่าวหาว่าโจทก์ตั้งใจหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอัตราที่สูง และโกงค่าไฟฟ้านั้น จำเลยมีหน้าที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงในข้อที่จะกล่าวหาโจทย์ให้ครบถ้วน รอบด้านเสียก่อน จำเลยจึงกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์ ว่ามีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการชำระภาษีให้น้อยลง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ในการแถลงข่าวของจำเลยส่วนนี้นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน พิพากษากลับให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น