- 27 ส.ค. 2560
"วินธัย" ออกโรงปฎิเสธกรณีมีบุคคลให้ความเห็นผ่านสื่อฯ"ยิ่งลักษณ์"หลบหนีเป็นสมยอมกันระหว่างผู้ต้องหาและผู้มีอำนาจ
ภายหลังจากสำนักข่าวเอเอฟพีประจำประเทศไทย รายงานเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2560 ระบุว่ามีแหล่งข่าวระดับสูงในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เผยต่อเอเอฟพีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เดินทางไปอยู่ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และอาจจะพยายามขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษ
โดยแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงไม่ขอเปิดเผยชื่อ ขอเปิดเผยเพียงรายละเอียดเกี่ยวกับการหลบหนีของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้นั่งเครื่องบินส่วนตัวจากประเทศไทยไปยังสิงคโปร์และต่อไปยังดูไบ ซึ่งเป็นฐานของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพี่ชาย และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเช่นกัน
แหล่งข่าวคนเดิมเผยอีกว่านายทักษิณวางแผนเตรียมการสำหรับการหลบหนีของน้องสาวมายาวนาน โดยเขาจะไม่มีวันยอมให้น้องสาวรับโทษจำคุกแม้แต่วันเดียว อย่างไรก็ตามดูไบไม่ใช่จุดหมายปลายทางสุดท้ายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์
เธออาจจะพยายามยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยในสหราชอาณาจักรต่อไป ทางด้านแหล่งข่าวระดับสูงในพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่ขอเปิดเผยตัวตนเช่นกัน เผยต่อเอเอฟพีในวันเดียวกันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีออกจากประเทศไทยไปยังดูไบ ประมาณ 2 - 3 วันก่อนที่ศาลกำหนดจะมีคำพิพากษาคดีที่เธอตกเป็นจำเลย
ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือออกมาเป็นระยะว่าการหนีศาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ในวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมานั้น เป็นการเปิดทางให้นางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนีเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งมีบิ๊กข้าราชการเปิดผู้เปิดทางให้หลบหนี จนทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2560 พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกมาระบุถึงกรณีที่มีบางบุคคลให้ความเห็นผ่านสื่อฯว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลบหนีไม่ไปศาลเพื่อฟังการตัดสินคดีนั้นอาจมีการตกลงสมยอมกันระหว่างผู้ต้องหาและผู้มีอำนาจ
เรียนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาการบริหารงานของ รัฐบาล และ คสช. มีลักษณะเปิดเผยตรงไปตรงมา ไม่ทำสิ่งใดที่ไม่อยู่ในกรอบของกระบวนการยุติธรรมที่มีอยู่ในระบบ
ความเห็นในลักษณะดังกล่าว ยังเป็นเพียงมุมมองส่วนบุคคลที่พยายามจะไปผูกเชื่อมโยงกันเอง ซึ่งไม่อยากให้มีการกล่าวหาพาดพิงกัน โดยอาศัยเพียงความคิดมุมมองเฉพาะตัว
โดยที่ไม่มีหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ใดมาสนับสนุนความคิดนั้นๆ เพราะจะทำให้สังคมติดหล่มอยู่ในวังวนทางการเมืองแบบเดิมๆ
ช่วงนี้ไม่อยากให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดไปให้ความเห็นในลักษณะสร้างความสับสนให้สังคม เพราะบางครั้งอาจทำให้สังคมเข้าใจผิด จนมีผลกระทบไปถึงภาพลักษณ์ของบุคคลหรือองค์กรได้
ส่วนกรณีการไม่มาตามนัดศาลของอดีตนายกฯ เป็นเรื่องของกระบวนการหรือกลไกที่เกี่ยวข้อง จะได้ทำหน้าที่ไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมในระบบที่มีอยู่ให้ได้อย่างดีที่สุด
ขอขอบพระคุณแหล่งที่มาของข้อมูลจาก : พันเอกวินธัย สุวารี