ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาการอุทธรณ์คดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตฯ กรณีสลายการชุมนุมพันธมิตรประชนเพื่อปราธิปไตยวันที่ 7 ต.ค. 2551 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้บาดเจ็บ 471 ราย ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 4 เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าไม่มีเจตนาให้เกิดความสูญเสีย และไม่ได้เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
       
ล่าสุด มีรายงานว่า ป.ป.ช.มีมติยื่นอุทธรณ์เพียงคนเดียวคือ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. จำเลยที่ 4 เท่านั้น

ก่อนหน้านั้น  อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้มีการจัดประชุมที่บ้านพระอาทิตย์  ก่อนที่นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกพันธมิตรฯ จะได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 2/2560 คณะทำงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่อง เรียกร้องรักษาความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมและความมั่นคง จากการเพิกเฉยการอุทธรณ์คดีการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551  โดยมีจุดยืนใน 3  ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย

๑. เรียกร้องขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้จัดประชุมเพื่อลงมติอุทธรณ์คดีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑
       
        ๒. อาศัยกรณีที่คำพิพากษาฉบับเต็มและคำวินิจฉัยส่วนตนที่เพิ่งออกมาในวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ จึงย่อมทำให้การอุทธรณ์อย่างละเอียดรอบคอบ ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้จริงในทางปฏิบัติให้ทันเวลาภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันพิพากษา หรือเสียสิทธิที่จะใช้เวลาให้ครบ ๓๐ วันในการเขียนคำอุทธรณ์นับแต่วันที่รับทราบคำพิพากษาฉบับเต็มตั้งแต่วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ อีกทั้งคณะทำงานด้านกฎหมายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องการระยะเวลาเพื่อที่จะนำส่งข้อท้วงติงและการเสนอการอุทธรณ์ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในคดีสำคัญนี้ จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในการขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไปอีก ๑ เดือน

๓. เพื่อความเชื่อมั่นในการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และเพื่อให้การอุทธรณ์เป็นไปด้วยความละเอียดรอบคอบและมีข้อที่สมบูรณ์ในทางกฎหมายจากผู้เสียหายโดยตรง จึงขอเรียกร้องให้คณะทำงานและทีมกฎหมายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำงานของทีมกฎหมายของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ