ผลกรรมปรากฏแล้ว!!!“หลานพ.อ.พระยาสุรพันธ์เสนีย์”เล่าครั้งลุงโดน“คณะราษฏร”ตั้งข้อหาเหตุภักดีในหลวง-เหมือนยุคไพร่แดงแม้“พระสังฆราช”ยังไม่เว้น??

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า  Chulcherm Yugala ซึ่งเป็นของพลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หรือพระนามลำลองว่า "ท่านใหม่" ได้แชร์ข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า อนุชาติ บุนนาค ซึ่งเป็นของ พล.ต.ดร.อนุชาติ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันศึกษายุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ โดยได้เล่าเรื่องราวในอดีตสมัยปฏิวัติ 2475 เกี่ยวกับพ.อ.พระยาสุรพันธ์เสนีย์ (อิ้น บุนนาค) ที่เจ้าของเรื่องบอกว่าเป็นลุง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นเชื่อมโยงมายังสถานการณ์ทางการเมืองของไทยไว้อย่างน่าสนใจศึกษาเรียนรู้เพื่อนำเหตุการณ์ในอดีตมาเป็นบทเรียนในปัจจุบันเพื่อได้เรียนรู้ร่วมกัน จึงขอนำเนื้อหาทั้งหมดมาเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะดังนี้

พ.อ.พระยาสุรพันธ์เสนีย์ (อิ้น บุนนาค) ลุงของผม

เมื่อครั้งในหลวง ร.๗ เสด็จไปพระราชวังไกลกังวลเพื่อหลีกหนีพวกคณะราษฎร์ที่พวกมันพยายามกดดันพระองค์ระหว่างขบวนรถไฟพระที่นั่งผ่านเมืองเพชรบุรี

พ.อ.พระยาสุรพันธ์เสนีย์ ผู้บัญชาการมณฑลราชบุรี ได้นำทหารและพสกนิกรไปรับเสด็จ พร้อมตั้งกองเกียรติยศถวายพระเกียรติที่สถานีรถไฟ ขณะขบวนเสด็จแล่นผ่าน

วันรุ่งขึ้นคณะราษฏรรู้ข่าวก็โกรธแค้นมากที่ท่านเจ้าคุณแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง

มีคำสั่งให้ถอดยศและปลดท่านออกจากราชการตั้งข้อหา กบฏและฝักใฝ่เจ้านาย

ผลกรรมปรากฏแล้ว!!!“หลานพ.อ.พระยาสุรพันธ์เสนีย์”เล่าครั้งลุงโดน“คณะราษฏร”ตั้งข้อหาเหตุภักดีในหลวง-เหมือนยุคไพร่แดงแม้“พระสังฆราช”ยังไม่เว้น??

ซึ่งในยุคนั้น ผู้ใดแสดงความจงรักภักดีต่อเจ้านายจะต้องถูกตั้งข้อหา ฝักใฝ่เจ้านายและจะต้องถูกรัฐบาลลงโทษหรือกลั่นแกล้งทุกคน ท่านเจ้าคุณถูกจับตีตรวนคุมตัวส่งไปติดคุกลาดยาวก่อนย้ายไปตะรุเตาวางแผนจะให้ตายคาคุกติดคุกได้ ๒ ปี ท่านก็ต่อแพหนีไปเกาะลังกาวีอาศัยอยู่ต่างประเทศหลายปี จนคณะราษฏรกัดกันเองเหมือนหมาแย่งกระดูกจนแตกสลายท่านจึงกลับเมืองไทย

ความชั่วของคณะราษฏรน่ะ มันมากมาย เหลือคณานับยุคปฏิวัติ ๒๔๗๕ ใครรักเจ้า ใครฝักใฝ่เจ้า พวกมันจัดการ เรียบเช่นเดียวกับในยุค ไพร่สถุลครองเมือง ท่านยังจำได้ใช่ไหม พวกไพร่แดงต่ำช้ามันทำอย่างไรกับ เจ้านาย แม้สมเด็จพระสังฆราช ไพร่สถุลยังไม่ละเว้น บัดนี้ ผลกรรรมปรากฏแล้ว

ผลกรรมปรากฏแล้ว!!!“หลานพ.อ.พระยาสุรพันธ์เสนีย์”เล่าครั้งลุงโดน“คณะราษฏร”ตั้งข้อหาเหตุภักดีในหลวง-เหมือนยุคไพร่แดงแม้“พระสังฆราช”ยังไม่เว้น??

       อย่างไรก็ตามหากย้อนไปเมื่อกลางดึกของวันที่ 29 เม.ย.2553 นายพายัพ ปั้นเกตุ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ได้นำการ์ดนปช.จำนวน 4 คนบุกเข้าตรวจค้นที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์โดยอ้างว่าทางโรงพยาบาล นำกำลังทหารเข้ามาประจำการอยู่ที่บริเวณชั้น 3 ซึ่งได้มีการเจรจากับผู้อำนวยการของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จนมีการอนุญาตให้ตรวจค้น โดยให้เฉพาะนายพายัพ และการ์ด นปช.อีกจำนวน 5 คน พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชนเข้าไปตรวจค้น

 

       ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้ย้ายผู้ป่วยผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อรักษาตัวชั่วคราว ในขณะที่แพทย์ได้เรียกร้องไม่อยากให้มีฝ่ายใดเข้ามาภายในโรงพยาบาล พร้อมทั้งยืนยันว่าจะไม่ทิ้งคนไข้ ซึ่งจากเหตุการณ์นี้มีรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องนำการเคลื่อนย้าย สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งอยู่ในพระอาการประชวร เป็นคนไข้รายสุดท้ายที่ต้องย้ายออกด้วย

ผลกรรมปรากฏแล้ว!!!“หลานพ.อ.พระยาสุรพันธ์เสนีย์”เล่าครั้งลุงโดน“คณะราษฏร”ตั้งข้อหาเหตุภักดีในหลวง-เหมือนยุคไพร่แดงแม้“พระสังฆราช”ยังไม่เว้น??

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : อนุชาติ บุนนาค

เฟซบุ๊ก : Chulcherm Yugala