ศรีวราห์ ลั่นหากสตช. ตำรวจยศพล.ต.ต.ใหญ่กว่าพล.ต.อ.ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้

จากกรณีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ประชุมด่วนชุดสืบสวนสอบสวนคดี “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” รวมทั้ง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ หรือ191 ( ผบก.สปฟ.) และคณะทำงานคลี่คลายคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ร่วมประชุม นานกว่า 1ชั่วโมง

ทั้งนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า หลังจากศาลอาญายกฟ้องไปเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม วันนี้เรียกประชุมคณะทำงาน เพื่อตรวจดูสำนวนที่ทำไป และดำเนินการต่างๆเพื่อส่งข้อมูลให้อัยการในการอุทธรณ์คดี ก็ต้องมาดูว่าขาดอะไร ที่ต้องหามาเพิ่ม ครั้งนี้จึงมอบให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เข้ามาช่วยดูในเรื่องการทำสำนวนให้แน่นหนาขึ้น การทำคดีนี้ก็มีความมั่นใจว่ากลุ่มจำเลยมีความผิดเพราะมีรายได้นับแสนล้านแต่จ่ายภาษีให้รัฐน้อยมาก เอาเปรียบรัฐจากนี้ก็ต้องไปหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยขึ้นอยู่กับพนักงานอัยการว่าต้องการให้สืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมประเด็นไหน และตำรวจต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง

ถ้ามีพลตำรวจตรีบารมีมากกว่า ผมอยู่ไม่ได้ ไม่พลตรีก็พลเอกต้องไป ?!? ศรีวราห์ ลั่นหากสตช. ตำรวจยศพล.ต.ต.ใหญ่กว่าพล.ต.อ.ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้???

ขณะพล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนจะเข้าไปตรวจสอบสำนวนอย่างละเอียด โดยตำรวจจะต้องดำเนินการตามคำสั่งของอัยการ มีเวลาที่จะอุทธรณ์ 1 เดือนหลังศาลมีคำพิพากษา แต่ก็สามารถขยายเวลาได้ เป็นเรื่องของอัยการกับศาล ในส่วนตำรวจมีหน้าที่เตรียมข้อมูลและพยานหลักฐานตามที่พนักงานอัยการสั่ง ทั้งนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งในเรื่องการทำคดีนี้ตามที่มีกระแสข่าว ตนกับพล.ต.อ.ศรีวราห์ ไม่ได้ขัดแย้งกัน และการประชุมวันนี้ก็ไม่ใช่การประสานรอยร้าวเป็นการเรียกคณะทำงานมาดูสำนวนที่ศาลยกฟ้องเพื่อเตรียมการอุทธรณ์เท่านั้น

ที่ว่า พล.ต.ต. จะมาใหญ่กว่า พล.ต.อ. ไม่มีหรอก เคยมีแต่ ร.ต.อ. กับ พ.ต.ท.ที่ใหญ่กว่าพล.ต.อ.  ซึ่งก็คือตอนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรองนายกรัฐมนตรีกำกับตำรวจ และตอนที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี” นอกจากนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์นั้น พบว่าทั้งพล.ต.อ.จักรทิพย์ และพล.ต.อ.ศรีวราห์ ต่างมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และหลังการให้สัมภาษณ์ ทั้งสองคนยังเดินคล้องแขนกอดเอวกันออกไป กระซิบคุยกันด้วย

ถ้ามีพลตำรวจตรีบารมีมากกว่า ผมอยู่ไม่ได้ ไม่พลตรีก็พลเอกต้องไป ?!? ศรีวราห์ ลั่นหากสตช. ตำรวจยศพล.ต.ต.ใหญ่กว่าพล.ต.อ.ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้???

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังถาม พล.ต.อ.ศรีวราห์ ด้วยว่าสำนวนคดีนั้น จะมีการเรียก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ในฐานะอดีตผบก.กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว มาสอบถามเรื่องการทำสำนวนหรือไม่ โดยรองผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ใช่เหตุ ถ้าคุยก็ต้องคุยกับพนักงานอัยการว่าต้องการพยานหลักฐานอะไรเพิ่มเติม เพื่อประกอบสำนวนในการอุทธรณ์ ส่วนกระแสข่าวเรื่องความเห็นไม่ตรงกันระหว่างตนกับพล.ต.ต.นายหนึ่ง จะมีการพูดคุยเจรจากันหรือไม่นั้น  ไม่มีอะไรต้องเจรจา และเมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีกระแสข่าวว่าในสตช.มี พล.ต.ต.ใหญ่กว่า พล.ต.อ. ทางพลตำรวจเอก ศรีวราห์ ตอบด้วยรอยยิ้มว่าไม่มี

ไม่มีหรอกครับ พลตำรวจตรีใหญ่กว่าพลตำรวจเอก โดยเฉพาะมีบารมีมากกว่าผมก็อยู่ไม่ได้ ถ้ามีพลตำรวจตรีบารมีมากกว่าผมอยู่ไม่ได้ ผมบอกแค่นี้แหละ ไม่พลตำรวจตรีก็พลตำรวจเอกต้องไป”

       ก่อนหน้านี้นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตแกนนำ กปปส. ได้ออกมาเปิดเผยถึงข้อมูลมีการซื้อขายตำแหน่งตำรวจว่า “ที่นครบาลนี่แพงกว่าภูธรอีก ใครๆก็รู้แพงกว่าถึง2เท่าเพราะเป็นพื้นที่ประโยชน์ทั้งนั้น ท่านผบ.ตร.รู้ดี และอย่าคิดว่าเรื่องนี้จบ อย่าคิดว่าแค่ที่ภาค8แล้วจบนะ อย่าหมกปัญหาไว้ใต้พรหม ตัวการใหญ่นั่งอยู่ในกทม. ยศพลตำรวจตรี เป็นใคร พวกตำรวจรู้กันดี คนๆนี้ใหญ่กว่า พลตำรวจเอกเสียอีก”

ถ้ามีพลตำรวจตรีบารมีมากกว่า ผมอยู่ไม่ได้ ไม่พลตรีก็พลเอกต้องไป ?!? ศรีวราห์ ลั่นหากสตช. ตำรวจยศพล.ต.ต.ใหญ่กว่าพล.ต.อ.ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้???

       ต่อมาพล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็ออกมาชี้แจงว่า “ ผมไม่รู้ว่า วิทยา ออกมาพูดมีเหตุผลอะไร หรือพูดเอามันคะนองปาก คงต้องให้ นครบาล และฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาว่า เข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือเปล่า หากหมิ่นองค์กร หรือบุคคลใด ทำให้เสียหาย ก็ต้องดำเนินคดี อย่างกรณีนครบาลไปว่าแบบนั้น ผมว่า เสียหายนะ ก็ต้องบอกให้ทางนครบาลไปดำเนินการด้วย ยืนยันว่า การแต่งตั้งผมทำคนเดียว ตามขั้นตอนกฎหมาย ตามคำสั่ง คสช. มีบางส่วนที่ยกเว้นหลักเกณณ์ แต่ไม่ใช่ปัญหาเลย” ผบ.ตร.กล่าว และระบุถึงกรณีที่มีกล่าวหาว่ามีนายตำรวจยศ พล.ต.ต. ใหญ่กว่า พล.ต.อ. นั้นว่า ไม่มี

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีการระบุถึง “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” ว่า เข้ามามีอิทธิพลให้การทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย ทำให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” ก็คือ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ.(191) ลูกน้องของตนเอง ไม่มีอะไร ยอมรับว่า บางครั้งตนก็ใช้งานให้ไปตรวจสอบข้อมูลบุคคลบ้าง ให้ไปเช็คทางลับ จึงอาจถูกเข้าใจผิด ไม่ได้เกี่ยวข้องในการทำบัญชี ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นหน้าที่ตน หน้าที่ของ ผบก.191 คือ ไปช่วยงานสนับสนุนโรงพัก ไปช่วยจับเด็กแว้น ปราบโจรออนไลน์ จับละเมิดสิทธิบัตร ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับการแต่งตั้ง

 ถามว่าเพราะ โจ๊ก หวานเจี๊ยบ สนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร (วงษ์สุวรรณ) รองนายกรัฐมนตรี ใช่หรือไม่ จึงถูกพาดพิง

 พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ใครๆ ก็สนิท ตนก็สนิท ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้อง

ถ้ามีพลตำรวจตรีบารมีมากกว่า ผมอยู่ไม่ได้ ไม่พลตรีก็พลเอกต้องไป ?!? ศรีวราห์ ลั่นหากสตช. ตำรวจยศพล.ต.ต.ใหญ่กว่าพล.ต.อ.ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้???

ขอบคุณคลิป :โต๊ะข่าวอาชญากรรม Tnn24