ป่วยอีกคน!?!พราหมณ์นปช.เป็นฝีคัณฑสูตร ศาลสั่งลื่อนคดีเปิดศูนย์ปราบโกงฯ ย้อนพิธีกรรม พราหมณ์ศักดิ์ระพี เคยใช้เท้าเหยียบเสา-เทเลือดทำเนียบ???

จากกรณีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. จำนวน 19 คน นำโดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ  นางธิดา ถาวรเศรษฐ นพ.เหวง โตจิราการ  นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ รวมทั้งนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ถูกนำตัวมาจาเรือนจำ เดินทางมาขึ้นศาลทหารกรุงเทพ ตามนัดสอบคำให้การ ในคดีฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ที่7/2557 ห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป จากกรณีที่ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ปี 2559 ที่ผ่านมานั้น

       ทั้งนี้นางธิดา กล่าวว่า การเดินทางมาขึ้นศาลทหารครั้งนี้ สืบเนื่องจากศาลได้เลื่อน นัดสอบคำให้การจากครั้งที่แล้ว เพราะ นปช.มาไม่ครบทั้ง 19 คน ซึ่งคดีนี้ถือเป็นคดีที่มีผู้ถูกกล่าวหามากที่สุด ทั้งนี้การร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2559 ที่ผ่านมา ทั้งที่นปช.มีต้องการให้การทำประชามติมีความโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับ ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการชุมนุมทางการเมือง ขณะที่นพ.เหวง ตั้งข้อเกตุถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ร่วมกันแถลงข่าว จำนวนกว่า 10 คน ต่อกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยกฟ้องการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม  ปี 2551 ถามว่าเป็นการชุมนุมทางการเมืองหรือไม่ คสช.มีมาตรฐานอย่างไร ซึ่งหากไม่มีมาตรฐานก็ยากที่จะเกิดการปรองดอง

       นอกจากนายจตุพร ที่ถูกนำตัวมาจากเรือนจำแล้ว นายยศวริศ ชูกล่อม ซึ่งถูกจำคุกในคดีหมิ่นเบื้องสูง จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยทั้งสองมีสีหน้ายิ้มแย้มทักทายมวลชนที่เดินทางมาให้กำลังใจประมาณ 20 คน ส่วนในวันนี้นายศักดิ์รพี พรหมชาติ หนึ่งในจำเลยมีอาการป่วย ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ จึงได้มีการเลื่อนนัดไปอีกครั้งในวันที่ 7 มีนาคม 2561 โดยนายณัฐวุฒิ ได้ออกมาเปิดเผยหลังศาลได้เลื่อนออกไปว่า เนื่องจากวันนี้ พราหมณ์ศักดิ์ระพี มีอาการป่วยด้วยโรคฝีคัณฑสูตร ไม่สามารถเดินทางมาได้ต้องไปรักษาตัวก่อน

 

       สำหรับพราหมณ์ศักดิ์ระพี เป็นพราหมณ์ประจำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ซึ่งเคยออกมากล่าวยอมรับว่า ตนเป็นผู้เสนอให้ทำพิธีกรรมเท และสาดเลือดที่ทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ และที่บ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่าหากไม่ทำจะมีการเสียเลือดเนื้อครั้งใหญ่ ซึ่งก็ยอมรับว่าเป็นอวิชชา ไสยศาสตร์ ไม่เป็นผลดีต่อทั้งฝ่ายของผู้กระทำ และผู้ถูกกระทำ โดยตนได้รับผลกระทบทันที โดนต่อว่าเสียหายถึงต้นตระกูลที่สั่งสมความดีมานาน

 

       “ ผมก็โดนของตอนที่เอาเท้าไปเหยียบเลือดทาที่เสาทำเนียบรัฐบาล มีของมาทำให้รู้สึกเจ็บเข้ากระดูก และมีนักการเมืองทั้งท้องถิ่น และระดับชาติ โทรศัพท์ไปด่าครอบครัวผม ผมเองไม่ใช่พราหมณ์เสื้อแดง ใส่เสื้อขาว แต่ต้องการทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อความถูกต้อง”  พราหมณ์ศักดิ์ระพี กล่าว

       อย่างไรก็ตามพบว่า ฝีคัณฑสูตร (Anal fistula หรือ Fistula in ano) เป็นฝีที่เกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อของต่อมชนิดหนึ่งที่อยู่ลึกเข้าไปใต้ชั้นผิวของทวารหนัก ตามปกติต่อมนี้จะมีหน้าที่ในการสร้างสารหล่อลื่น ซึ่งช่วยให้การขับถ่ายง่ายขึ้น แต่เมื่อฝีเกิดการอักเสบและติดเชื้อจะทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ของเสียจากอุจจาระ และหมักหมมนานวันเข้าจนกลายเป็นฝีหนอง ปริมาณหนองที่มากขึ้นก็จะขยายใหญ่ กัดเซาะไปตามกล้ามเนื้อของทวารหนัก และสามารถทะลุออกมาถึงชั้นผิวด้านนอกได้ หากทิ้งไว้นาน หนองก็จะแตกออกจนมีน้ำหนองไหลเยิ้มออกมาด้านนอก

 

    “ซึ่งถูกส่งต่อจากต่อมภายในช่องใต้ชั้นผิวหนังของทวารหนักที่เรียกว่า “Fistula” หรือโรคที่การทางทะลุนั่นเอง รูที่เปิดจะเชื่อมต่อจากทวารหนักมาถึงรูที่เปิดอยู่บริเวณผิวหนังรอบๆ ปากทวารหนัก ความรุนแรงของโรคนี้อาจตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อน การแตกของฝีที่ทำให้ทวารหนักบาดเจ็บ น้ำเหลืองหรือหนองไหลซึมตลอดเวลา กลายเป็นฝีคัณฑสูตรเรื้อรัง ร่วมกับอาการคัน ปวดทรมานรอบๆ ปากทวารหนัก ซึ่งจะต้องทำการรักษาด้วยขั้นตอนที่ยุ่งยาก หากปล่อยทิ้งไว้ก็จะมีน้ำหนองไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา”