ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบปรับปรุงโครงสร้างอัตราค่าเช่าบ้านของข้าราชการ เพื่อให้เป็นไปตามความเหมาะสม เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีการปรับรายได้ให้ข้าราชการไปแล้ว จึงได้ปรับเพิ่มอัตราค่าเช่าบ้านให้ข้าราชการหลังไม่ได้ปรับมา 7-8 ปีแล้ว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เป็นภาระงบประมาณจากเดิมปีละ 3,000 ล้านบาทเป็นปีละ 4,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ การปรับปรุงโครงสร้างอัตราค่าเช่าบ้านของข้าราชการ จะช่วยข้าราชการประมาณ 2 ล้านราย ให้ได้รับอัตราค่าเช่าบ้านเพิ่มขึ้น จากเดิมเดือนละ 800-4,000 บาท เป็นเดือนละ 2,500-6,000 บาท ถือเป็นการช่วยเรื่องเรื่องค่าครองชีพให้ข้าราชการ

"การปรับปรุงอัตราค่าเช่าบ้านให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ประกอบกับบัญชีอัตราค่าเช่าบ้านบางกลุ่มไม่สอดคล้องกับตำแหน่งและค่าตอบแทนของข้าราชการประเภทต่างๆ ทำให้เกิดปัญหาการเทียบอัตราค่าเช่าเพื่อเบิกจ่ายค่าเช่าบ้านให้กับข้าราชการประเภทต่างๆ" นายกอบศักดิ์ กล่าว

ด้าน พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.ยังมีมติเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ 20 ปี (2560-2579) เพื่อเป็นการส่งเสริมความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านการอยู่อาศัยให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยมีกลุ่มเป้าหมายครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย 2.7 ล้านครัวเรือน

ทั้งนี้ แผนการดำเนินการดังกล่าว จะส่งเสริมและพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชน ส่งเสริมมาตรการทางการเงินเพื่อที่อยู่อาศัย บูรณาการความร่วมมือด้านที่อยู่อาศัยทุกภาคส่วน ส่งเสริมและพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งด้านที่อยู่อาศัย พัฒนาเมืองให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี

สำหรับแผนการดำเนินการในเบื้องต้น จะพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ทั้งสิ้น 2.27 ล้านหน่วย แผนการเสริมสร้างความมั่นคงด้านการอยู่อาศัย (เช่าซื้อ) ทั้งสิ้น 530,609 หน่วย แผนพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับข้าราชการ ทั้งสิ้น 123,000 หน่วย และแผนความร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนาที่อยู่อาศัย (บ้านประชารัฐ) ทั้งสิ้น 1.5 ล้านหน่วย แผนพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนแออัดและผู้มีรายได้น้อยในเมือง 701,702 ครัวเรือน เป็นต้น นอกจากนี้ยังให้ครอบคลุมไปถึงผู้สูงอายุ คนพิการ ไร้ที่พึ่ง ด้อยโอกาส เพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้เข้าถึงมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักเป็นแหล่งเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ