ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดฟังคำสั่งคดีหมายเลขดำ อม.177/2560 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยข้อกล่าวหา นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฐานจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ โดยป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดกรณีร่ำรวยผิดปกติรวมมูลค่า 346,652,588.52 บาท

ทั้งนี้องค์คณะพิเคราะห์แล้ว จึงมีคำสั่งให้รับคำร้อง ป.ป.ช. ไว้วินิจฉัยเพื่อมีคำพิพากษา โดยนัดพิจารณาคดีครั้งแรกในวันที่ 12 ตุลาคม เวลา 09.30 น. ซึ่งวันดังกล่าว นายธาริต จำเลย จะต้องเดินทางมาแสดงตัวต่อหน้าศาลเป็นครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ พร้อมทั้งยื่นขอประกันตัวต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายธาริต พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ หลังจากมีคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 8/2557 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 โดยให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากถูก ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สิน ก่อนที่ต่อมาวันที่ 10 มีนาคม 2559 ป.ป.ช. จะมีมติเป็นเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ชี้มูลความผิด นายธาริต ว่า มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ รวมมูลค่ากว่า 346 ล้านบาท โดยป.ป.ช.ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์ในชื่อของ นายธาริต พร้อมทั้ง นางวรรษมล คู่สมรส และบุคคลที่เกี่ยวข้องถือครองแทนไว้ชั่วคราวก่อนหน้านี้กว่า 90 ล้านบาท แต่เนื่องจากทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติบางส่วนมีการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินทำให้ไม่สามารถติดตามทรัพย์สินได้ คงเหลือทรัพย์สินอีก 256,391,901 บาท ที่ให้บังคับคดีเอาจากทรัพย์สินอื่นของ นายธาริต และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรส

นอกจากการยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ป.ป.ช. ยังส่งรายงานและสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ให้กับอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้ยึดทรัพย์สิน นายธาริต ตกเป็นของแผ่นดิน พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542ตามมาตรา 80 และ 83 ด้วย ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุด รับเรื่องไว้เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2559 จากนั้นอัยการสูงสุดโดยพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 ขอให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติของ นายธาริต ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งทรัพย์สินนั้นมีชื่อของนายธาริต , นางวรรษมล คู่สมรส และญาติกว่า 340 ล้านบาทเศษ โดยศาลแพ่งได้รับคำร้องของอัยการไว้ไต่สวนพยานแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนพยานฝ่ายอัยการ ผู้ร้อง

ทั้งนี้จากการถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีร่ำรวยผิดปกติดังกล่าว ยังส่งผลให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะต้นสังกัดของ นายธาริต มีคำสั่งเมื่อวันที่ 3 เมายน 2560 ให้ นายธาริต พ้นจากราชการโดยถูกไล่ออก