- 20 ก.ย. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th
เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ตั้งแต่ช่วงเช้า นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้เป็นผู้บัญชาการการปฏิบัติการในการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ไดร่วมกับนายอภิชัย เอกวนากุล ผอ.สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 และหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ จ.ชุมพร ลงพื้นที่ตรวจเรือประมงเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU Fishing) ที่ จ.ชุมพร เพื่อเป็นการปฏิบัติงานเพื่อสนองนโยบายรัฐบาล และเป็นการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU Fishing) บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตรวจสอบเรือประมง ประมาณ 4-5 ลำ นายโสภณ ได้นำเรือตรวจการเข้าเทียบพร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดรวมทั้งตรวจสอบเครื่องมือทำการประมง ลูกเรือ เป็นต้น ส่วนใหญ่ไม่พบการทำผิดกฎหมาย
นายโสภณ กล่าวว่า ทช.รับผิดชอบงานป้องกันระบบนิเวศและทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่รับผิดชอบ 23 จังหวัด โดยการตรวจตรา ลาดตระเวน ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการทำการประมง ซึ่งแบ่งชุดเรือตรวจการณ์ตามแผนบูรณาการออกลาดตระเวนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ดำเนินการตรวจเรือประมงในท้องที่ที่รับผิดชอบ โดยมีผลการดำเนินการตรวจเรือประมง ตั้งแต่เดือน ต.ค.2559 - 20 ก.ย.2560 จำนวน 1,215 ลำ แรงงาน 16,070 คน สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ 129 คดี ได่ผู้ต้องหา 130 คน
ด้่นนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดี ทช. กล่าวว่า ทช. เป็นหน่วยงานภายใต้ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือ ศรชล. ซึ่ง ศรชล. ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นหน่วยงานหลักที่จะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 10/2558 ให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายหรือศปมผ. (Command Center for Combating Illegal Fishing) การจัดตั้ง ศปมผ. ไม่ใช่แค่เพียงการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU Fishing จากมาตรการแจ้งเตือนสถานะใบเหลืองโดยสหภาพยุโรป (EU) เพียงอย่างเดียว
แต่สิ่งสำคัญคือการรักษาทรัพยากรทางทะเลให้สมบูรณ์และยั่งยืนสืบต่อไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน ซึ่งได้กำชับให้หน่วยงานในระดับพื้นที่ เร่งดำเนินการตามข้อสั่งการและนโยบายของรัฐบาลอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจเรือประมงไร้สัญชาติ การตรวจความถูกต้องของเครื่องมือประมง การตรวจการเข้า – ออก ของเรือประมง (Port In/ Port Out) การตรวจอุปกรณ์เครื่องมือในระบบติดตามเรือ (VMS) กับเรือที่มีขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป การตรวจใบอนุญาตแรงงานชาวต่างด้าว รวมถึงการสอดส่องเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญสำหรับประเทศไทย ซึ่งจะช่วยส่งผลให้ไทยหลุดพ้นจากการให้ใบเหลืองของ EU ได้ในที่สุด