ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

ฮียอนลิม หญิงชาวเกาหลีเหนือผู้แปรพักตร์ วัย 26 ปี และพ่อของเธอเป็นถึงเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของเกาหลีเหนือ ภายใต้การปกครองของผู้นำ คิมจองอึน ยอมเสี่ยงชีวิตของตนเอง ออกมาเปิดเผยเรื่องราวความลับภายในประเทศระบอบเผด็จการแห่งนี้ให้โลกได้รับรู้
        ฮียอนลิม หลบหนีออกมาจากเกาหลีเหนือตั้งแต่ปี 2558 ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่กรุงโซลเมื่อปี 2559 โดยเธอแอบหนีมากับแม่ และน้องชาย หลังจาก วุยยอนลิม ทนายยศนายพันผู้เป็นพ่อและเป็นหนึ่งในกองทัพประชาชนของเกาหลีใต้ เสียชีวิตจากไปเมื่อตอนอายุได้ 51 ปี 

        โดยไม่กี่วันหลังจากเกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์ ที่ระบุว่า มีอานุภาพรุนแรงกว่าที่เคยถล่มเมืองฮิโรชิม่า ของญี่ปุ่น ถึง 10 เท่า ฮียอนลิม ก็ได้ออกมาเผยข้อมูลกับทางเว็บไซต์มิเรอร์ ภายในสถานที่ลับ ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นเรื่องราวลับ ๆ ที่คนภายนอกยังไม่เคยทราบเกี่ยวกับผู้นำจอมเผด็จการ คิมจองอึน โดยประเด็นหลัก ๆ มีดังนี้

- ใช้กำลังบังคับประชาชน แม้กระทั่งกลุ่มชนชั้นสูง ให้ไปร่วมชมการประหารชีวิตโชว์ที่สุดเลวร้าย 

        ฮียอนลิม เผยว่า ครอบครัวเธอเคยเป็นหนึ่งในไม่กี่พันครอบครัว ที่เคยอยู่ในกลุ่มชนชั้นสูง ใช้ชีวิตอยู่ดี กินดี ในกรุงเปียงยาง แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เมื่อครั้งที่ คิมจองอึน ขึ้นเป็นผู้นำประเทศต่อจากพ่อของเขาได้ไม่นาน เธอและครอบครัวก็ถูกบังคับให้ไปดูการประหารชีวิตประจานในที่สาธารณะ ซึ่งพวกเขาเป็นกลุ่มนักดนตรีชาวเกาหลีเหนือ 11 ราย ที่ถูกกล่าวหาว่าทำวิดีโอลามก 

        ฮียอนลิม เล่าว่า นอกจากเธอแล้วยังมีผู้คนมากมายกว่า 10,000 ชีวิต ถูกบังคับให้มาดูเช่นกัน โดยเหยื่อทั้ง 11 รายถูกจับมัดและปิดปาก ก่อนจะถูกยิงสังหารทีละรายจนหมด ซึ่งเธอยืนอยู่ห่างจากเหยื่อเหล่านั้นเพียงแค่ 60 เมตร โดยหลังจากร่างของพวกเขาล้มลงไปกองที่พื้น เลือดก็ไหลท่วมไปทั่วบริเวณ ภาพดังกล่าวทำให้เธอรู้สึกสยองอย่างที่สุด เธอรู้สึกไม่สบายและไม่สามารถกินอะไรได้นานถึง 3 วัน 

        ในดินแดนของผู้นำจอมเผด็จการที่ชื่อว่า คิมจองอึน นั้น ไม่มีผู้ใดมั่นใจได้ว่าจะปลอดภัยแน่นอน แม้แต่คนใกล้ชิด คนสนิท หรือแม้กระทั่งญาติของเขาเอง ก็ไม่รอดพ้นจากการถูกสั่งฆ่า ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นกับ คิมจองนัม น้องชายต่างบิดาของเขา รวมไปถึงลุงของเขา และเจ้าหน้าที่อีกหลายชีวิตที่มีส่วนเชื่อมโยงกับจีนก็ถูกสังหารหมดทั้งสิ้น 

- ล้างสมองผู้คนด้วยคำกล่าวอ้างที่ว่า ประเทศจะอยู่ยงคงกระพัน ไม่มีประเทศใดสามารถเอาชนะได้ และข่มขู่สหรัฐฯ 

        ในส่วนเหตุผลที่คิมจองอึน ขู่เรื่องสงครามนั้น ฮียอนลิม เล่าว่า เนื่องจากเขารู้สึกจนมุมและไม่มีที่ให้หลบหนีอีกแล้ว เขากลัวว่าดินแดนของเขาจะล่มสลายไป อย่างตัวเธอเองสามารถหลบหนีออกมาได้ แต่สำหรับเขาไม่สามารถจะหนีไปไหนได้ จึงต้องทำตัวให้ดูมีอำนาจน่าเกรงขาม ส่วนประชาชนที่ให้การสนับสนุนเขา ก็ด้วยเหตุผลเดียวกันคือ หวาดกลัว เพราะหากไม่ทำตามก็จะโดนสั่งฆ่า ใครก็ตามที่ไม่เชื่อฟังเขา ก็จะถูกฆ่าราวกับเป็นแค่สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ 

- มีสถานที่หลบภัยหรูหราอย่างลับ ๆ จำนวนมากมายกว่าร้อยแห่งภายในประเทศ ซึ่งทำให้สายลับตะวันตกไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ผู้นำประเทศนั้นอยู่ที่ใดกันแน่ 

        หนึ่งในสถานที่หลบภัยของคิมจองอึน หรูหราขนาดเท่าพระราชวังหลังย่อม ๆ ที่ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ มีสวนสวยงามและน้ำตก ฮียอนลิม เล่าว่า ในช่วงที่สถานการณ์ตึงเครียด ช่วงที่มีการยิงขีปนาวุธ หรือทดสอบนิวเคลียร์ ประชาชนที่เป็นผู้ใหญ่ทุก ๆ คนจำเป็นต้องสวมชุดเครื่องแบบทหารนอน เผื่อกรณีฉุกเฉินว่าจะเกิดสงครามการสู้รบขึ้น 

- มีทาสกามจำนวนมาก โดยเป็นเด็กวัยรุ่นที่นำตัวมาจากโรงเรียนมัธยม แม้ว่าคิมจองอึน จะมีภรรยาอยู่แล้ว คือ รีซอลจู ผู้เป็นแม่ของลูก ๆ ทั้ง 3 คนของเขา 


        ฮียอนลิม เล่าว่า วันหนึ่งมีเจ้าหน้าที่จำนวนมากบุกเข้ามาที่โรงเรียนของเธอ แล้วจับตัวหญิงสาวรายหนึ่งไป ซึ่งเธอคนนั้นหน้าตาดีที่สุด และมีขาที่ตรงเรียวยาว โดยเธอถูกพาไปเป็นหนึ่งในบรรดาผู้หญิงของเขากว่าร้อยคนที่อยู่ตามเซฟเฮ้าส์ต่าง ๆ โดยพวกเธอเหล่านี้จะถูกฝึกให้คอยรับใช้ท่านผู้นำ ตั้งแต่เสิร์ฟอาหาร บริการนวด และท้ายที่สุดก็กลายเป็นทาสกาม ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องห้ามทำผิดพลาด หรือขัดขืนใด ๆ เพราะอาจจะเกิดการหายตัวไปได้อย่างง่าย ๆ รวมทั้งหากพวกเธอตั้งท้องขึ้นมา ผลที่ได้ก็คงไม่ต่างกัน

- ใช้เงินจำนวนมากกว่า 1,000 ปอนด์ (ราว 45,000 บาท) ในการรับประทานอาหารต่อมื้อ ในขณะที่ประชาชนของเขาต้องอยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ อาศัยกินเศษผักเศษหญ้าประทังชีวิต 


        หนึ่งในเมนูโปรดของผู้นำคิมจองอึน คือ ซุปรังนก ซึ่งเป็นอาหารราคาแพงและหายากที่ต้องนำเข้าจากจีน ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2,000 ปอนด์ (ราว 89,000 บาท) อีกทั้งเขายังชื่นชอบกินคาเวียร์ และเมนูพิเศษอื่น ๆ ที่มีราคาแพง ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นของนำเข้า นอกเหนือจากอาหาร คิมจองอึน ชื่นชอบการดื่มวิสกี้และแชมเปญหรู ในขณะที่ประชาชนในประเทศอาศัยอยู่อย่างอดอยากแร้นแค้น