2นายทหารผู้จงรักภักดีตามรอยพ่อ!?! บิ๊กแดง:ลูกบิ๊กจ๊อด-พล.ต.ณัฐวัฒน์-ลูกบิ๊กพัฒน์ อดีตสองพ่อดุจพี่น้องร่วมสาบาน ขุนพลของแผ่นดินยามวิกฤติ?!?

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

จากกรณีเมื่อวันที่22 ก.ย.60 ที่ลานหน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เขตบางเขน กองทัพภาคที่ 1 นำโดย พล.ต.ณัฐวัฒน์ อัคนิบุตร ที่ปรึกษาอนุกรรมการจัดขบวนในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช นัดหมายทุกหน่วยปฏิบัติในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 1-2-3 กว่า 20 หน่วยงาน ร่วม 2,000 คน เข้าร่วมฝึกซ้อมเสมือนจริง ทั้งนำอุปกรณ์จริงที่ใช้ในพระราชพิธีทั้งหมดเข้าร่วมฝึกซ้อม เช่น เครื่องสูง กลองชนะ สำหรับราชรถราชยานใช้พระยานมาศสามลำคานจำลอง รถบรรทุกทหารขนาด 4 และ 10 ตัน ทดแทนราชรถพระนำ และพระมหาพิชัยราชรถ ราชรถปืนใหญ่องค์ซ้อม

2นายทหารผู้จงรักภักดีตามรอยพ่อ!?! บิ๊กแดง:ลูกบิ๊กจ๊อด-พล.ต.ณัฐวัฒน์-ลูกบิ๊กพัฒน์ อดีตสองพ่อดุจพี่น้องร่วมสาบาน ขุนพลของแผ่นดินยามวิกฤติ?!?

       ทั้งนี้นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้ออกมาโพสต์ข้อความพร้อมภาพในการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ โดยได้ชื่นชมถึงนายทหารที่นำการฝึกซ้อม นั่นคือ พล.ต.ณัฐวัฒน์ อัคนิบุตร ซึ่งเป็นลูกชายพล.อ. พัฒน์ อัคนิบุตร อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขุนพบผู้ภักดีแผ่นดิน เนื้อหาทั้งหมดที่ระบุไว้มีดังนี้

 

“ลูกชาย พล.อ. พัฒน์ อัคนิบุตร ขุนพลผู้ภักดีแผ่นดิน กำลังออกคำสั่งในการซ้อมเคลื่อนริ้วขบวนพระอิสริยยศเมื่อวานนี้

ในขณะที่ลูกชาย พล.อ. สุนทร คงสมพงษ์ คือแม่ทัพภาค1 กำลังรับผิดชอบภารกิจสำคัญทั่วพื้นที่รับผิดชอบ

ในอดีตสองพ่อเป็นเพื่อนรักดุจพี่น้องร่วมสาบานและเป็นกำลังของแผ่นดินยามวิกฤติหลายหน

ในปัจจุบันสองลูกก็เป็นกำลังของแผ่นดินและคือนายทหารผู้จงรักภักดีตามรอยพ่อ

เห็นภาพนี้ก็ภูมิใจแทนพี่พัฒน์ หากวิญญาณพี่พัฒน์ สามารถรับรู้ได้ก็คงภูมิใจที่ลูกชายมีโอกาสได้ถวายการรับใช้ส่งเสด็จในครั้งนี้

2นายทหารผู้จงรักภักดีตามรอยพ่อ!?! บิ๊กแดง:ลูกบิ๊กจ๊อด-พล.ต.ณัฐวัฒน์-ลูกบิ๊กพัฒน์ อดีตสองพ่อดุจพี่น้องร่วมสาบาน ขุนพลของแผ่นดินยามวิกฤติ?!?

        ก่อนหน้านี้ นายไพศาล เคยออกมาแสดงความคิดเห็นในกรณีการควบคุมตัว นายวัฒนา ภุมเรศ วัย62 ปีที่ได้ก่อเหตุวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยอยากให้คนไทยขอบใจผู้ที่ตัดสินใจบุกเข้าจับกุมนายวัฒนา ก่อนที่จะไปก่อเหตุร้ายวางระเบิดที่โรงพยาบาล อันเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญ ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดทีดังนี้

 

ภูมิใจแทนพี่จ๊อด!!!

คนใจชั่วยิ่งกว่าไอซิส บังอาจวางระเบิดโรงพยาบาล

วางระเบิดห้องวงษ์สุวรรณเป็นสัญลักษณ์ตี คสช.

จะไปวางระเบิดต่อที่ศิริราช มหิดล และอีกโรงพยาบาลสำคัญ มันมุ่งตึกไหน ห้องไหน สัญลักษณ์อะไร

มันมุ่งทำร้ายใจคนทั้งชาติ

คนไทยต้องขอบใจคนกล้าตัดสินใจจับก่อนก่อเหตุใหม่

เดชะบุญบ้านเมืองศักดิ์สิทธิ์ ตรวจค้นจับหลักฐานเพียบจนต้องจำนน

ระวังกำลังจะรับเหมาว่าทำคนเดียว เพื่อตัดตอนผู้ร่วมแก๊งอั้งยี่

ระวังหวยจะออกว่า เป็นคนเสียสติเช่นเดียวกับคนทุบพระพรหม ฯลฯ

มันเตี๊ยมกันเยี่ยมมากนะ

2นายทหารผู้จงรักภักดีตามรอยพ่อ!?! บิ๊กแดง:ลูกบิ๊กจ๊อด-พล.ต.ณัฐวัฒน์-ลูกบิ๊กพัฒน์ อดีตสองพ่อดุจพี่น้องร่วมสาบาน ขุนพลของแผ่นดินยามวิกฤติ?!?

       อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบเอกสารที่ชื่อว่า สรุปการสัมภาษณ์ พลเอกพัฒน์ อัคนิบุตร ตามโครงการคลังปัญญายุทธศาสตร์ ของสถาบันวิจัยทางยุทธศาสตร์ และชมรมยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นหน่วยงานของ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ(สปท.) กองบัญชาการทหารสูงสุด อันเป็นหน่วยบังคับบัญชาของ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) วิทยาลัยเสนาธิการทหารและสถาบันวิจัยทางยุทธศาสตร์ โดยสถาบันวิจัยทางยุทธศาสตร์ ยังมีการแยกแขนงออกไปอีกหลายส่วน ซึ่งเอกสารนี้ได้กล่าวนำว่า เรื่องราวที่บันทึกสรุปต่อไปนี้ อาจถือได้ว่าเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์การเมือง การทหารที่สำคัญ ซึ่งเป็นทั้งความลับและเกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของประเทศชาติที่เกิดขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2521 แต่ได้ถูกนำมาเปิดเผย เมื่อปี พ.ศ. 2536 ”                  

      

               ทั้งนี้ความลับที่ว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองและการทหารที่สำคัญ เกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของประเทศชาตินั้น ได้ถูกระบุและบันทึกไว้ว่า หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันเป็นผู้รายงานเปิดเผยความลับนั้น ดังข้อความที่ปรากฏคือหัวหน้าชุดสัมภาษณ์ (พลโทบุญเยี่ยม สาริมาน) ได้อ่านพบบทความคอลัมน์ จับตาสมการในกองทัพ เขียนโดย ปรีชา กุลปรีชา ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 15, 16 และ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2536 ได้กล่าวถึงสภาสงครามว่าและได้กล่าวถึงข้อความที่ปรากฏใน นสพ.ผู้จัดการรายวัน ตามลำดับ และมาถึงความสำคัญว่า

2นายทหารผู้จงรักภักดีตามรอยพ่อ!?! บิ๊กแดง:ลูกบิ๊กจ๊อด-พล.ต.ณัฐวัฒน์-ลูกบิ๊กพัฒน์ อดีตสองพ่อดุจพี่น้องร่วมสาบาน ขุนพลของแผ่นดินยามวิกฤติ?!?

       ในบทความเรื่องนี้ ได้มีการกล่าวถึงนายทหารไทย 3 นายคือ พลโทผิน เกสร พันเอกชวลิต ยงใจยุทธ พันเอกพัฒน์ อัคนิบุตร ได้เดินทางไปพบผู้นำจีน คือ ฯพณฯ เติ้ง เสี่ยวผิง ที่นครปักกิ่ง หลังจากการพบปะครั้งสำคัญนี้ มีผลทำให้ยุทธศาสตร์ของภูมิภาคนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก กล่าวคือ ประเทศไทยเป็นฝ่ายที่ชนะโดยไม่ต้องรบ และสามารถรักษาอธิปไตยของชาติไว้ได้ในที่สุด

      

       พลโทผิน เกสร ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด เป็นหัวหน้า โดยมี พันเอกพัฒน์ อัคนิบุตร หัวหน้าฝ่ายข่าว ศูนย์อำนวยการร่วม และพันเอกชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้ากองยุทธการ กรมยุทธการทหารบก ร่วมคณะไปเจรจาการเมือง การทหารกับจีน

2นายทหารผู้จงรักภักดีตามรอยพ่อ!?! บิ๊กแดง:ลูกบิ๊กจ๊อด-พล.ต.ณัฐวัฒน์-ลูกบิ๊กพัฒน์ อดีตสองพ่อดุจพี่น้องร่วมสาบาน ขุนพลของแผ่นดินยามวิกฤติ?!?