ฟังจะๆ"สนธิญาณ"ซัดรองผู้การพา"ยิ่งลักษณ์"หนี!!?? ไม่แน่จริงไม่ได้อยู่"น.5" เทียบเคียง "พล.ต.อ.ภาณุพงศ์" จากภาคเหนือสู่นครบาล!?

ใกล้ได้ความจริงไปอีกขั้นสำหรับการหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีก่อนหน้าศาลจะอ่านคำตัดสินกรณีนโยบายข้าว ของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองเมื่อวันที่25 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งตลอดระยะเวาลา28ของการคว้านหาตัวการ หรือ เส้นทางที่ใช้พาน.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบนี  และในที่สุดความจริงก็เริ่มปรากฏภาพชัดขึ้น ภายหลังจากเมื่อคืนวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา มีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย มีทั้งยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งรอง ผบก. ,ยศ พ.ต.ท. ตำแหน่ง สว.สส. และชั้นประทวน ยศ ด.ต. มาสอบสวนพร้อมรถยนต์เก๋ง โตโยต้าแคมรี่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพาตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลบหนี กระทั่งเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็มีหนังสือบันทึกข้อความ เรื่อง รายงานการซักถามผู้เกี่ยวข้องกรณีการพา น.ส.ยิ่งลักษณ์  หลบหนี ถึง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ของพล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผบก.ปส.๑.บช.ปส. ร่วมกับพล.ต.วิจารณ์ จดเเตง หัวหน้าฝ่ายกฏหมายหน่วยเฉพาะกิจการข่าว คสช.ทำการซักถามบุคคลผู้เกี่ยวข้องในกรณีการพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลบหนี โดยฝีมือของข้าราชการตำรวจ3นายที่ร่วมมือกัน อย่างพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รอง ผบก.น.5 บช.น. พ.ต.ท.สามมิตร ไชยอิ่นคำ สว.สส.ภ.จว.นครปฐม และ ด.ต.พรพิพัฒน์ มากบุญงาม ผบ.หมู่ ฝอ.7 ภ.จว.นครปฐม   โดยพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์  กับ ด.ต.พรพิพัฒน์ เคยร่วมกัน  โดยพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ในสมัยที่เคยรับราชการอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามด้วยกันเมื่อประมาณเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา  และ ด.ต.พรพิพัฒน์ กับ พ.ต.ท.สามมิตร เป็นนักเรียนพลตำรวจรุ่นเดียวกัน  แต่นี่อาจเป็นแค่หน่วยปฏิบัติตามใบสั่ง

 

 

จากนั้นทางคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานบริหาร และบรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอระเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า น่าสนใจว่าระดับ “รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5” ดูแลพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน ทองหล่อ ท่าเรือ ทุ่งมหาเมฆ บางนา บางโพงพาง พระโขนง ลุมพินี วัดพระยาไกร เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ทองคำ คนที่จะมาเป็นรอผู้การในพื้นที่นี้ ไม่ธรรมดา .. น่าสนใจที่เมื่อไม่ธรรมดาแล้วกล้ามาทำเรื่องแบบนี้หรือ?? แต่เขามีคนสั่งการมา??

คุณสนธิญาณ  ยังระบุอีกด้วยว่า พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์เคยเป็นตำรวจอยู่ทางภาคเหนือ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เคยมีผู้บัญชาการตำรวจภาค5 คุมพื้นที่ภาคเหนืออยู่หนึ่งคน ซึ่งบุคลดังกล่าวก็โด่งดังมาก ที่พูดไม่ได้เกี่ยวกับพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ เพียงแต่อยากเล่าให้ฟัง  โดยตำรวจนายดังกล่าวชื่อ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา จากผู้บัญชาการภาค 5 รับตำแหน่งมากมายต่อมาได้ขึ้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. และท้ายที่สุดก็ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาเทียบเท่าอธิบดี ได้ยศ “พล.ต.อ.” ที่น่าสนใจ ตำแหน่งสุดท้าย ได้เข้ามาเป็นรองเลขาธิการนายกฯ จริงๆก็คือเป็นเลขานุการของรองนายกฯนั่นเอง “พล.ต.อ.”  มาเป็นเลขาของ “ร.ต.อ.”  นั่นก็คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

“พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ก็เคยอยู่ภาคเหนือ ด้านพล.ต.อ.ภาณุพงศ์  ก็เคยอยู่ภาคเหนือด้วย เกี่ยวกันหรือไม่ ไม่รู้ เพียงแต่สงสัยว่าใครเป็นคนสั่งการ ..สรุปว่าพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ถ้าเส้นไม่ดี ไม่ได้อยู่ นครบาล 5”

คุณสนธิญาณย้ำด้วยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แถลงเอง แถลงว่าไปทางจ.สระแก้วแน่นอน ย.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ไปบุกป่าฝ่าดงอาจไม่ได้ไปทางช่องทางธรรมชาติ ไปทางบ่อน เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลพื้นที่ในวันเวลานั้น ต้องถูกสอบ และประเด็นสำคัญ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องมีบัตร ประชาชนกัมพูชา ไม่งั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่สามารถบินออกจากประเทศกัมพูชาได้

 

 

อย่างไรก็ตามต้องกลับมาพิจารณาประวัติของการทำงานของ “พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ” รอง ผบก.น.5 บช.น.  แรกเริ่มเดิมทีสำหรับ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ เติบโตมาตามสายงานในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นรอง ผกก.สภ.แม่เจดีย์ จ.เชียงราย ขึ้นเป็น ผกก.สภ.ร้องกวาง จ.แพร่ ก่อนจะเป็นที่ฮือฮาในการแต่งตั้งโยกย้ายเมื่อปี 2558 พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ย้ายข้ามห้วยจาก สภ.ร้องกวาง มาเป็น ผกก.สส.2 บก.สส. ในพื้นที่นครบาล สมัยที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เป็น ผบช.น. สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อนจะย้ายไปเป็น ผกก.ฝอ.บก.น.8 ก่อนมานั่งเป็นรอง ผบก.น.5 และก่อนหน้านั้น พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ยังเคยเป็นนายเวรของพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย

 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบในโลกโซเชียล พบเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า “Chairit Anurit” คาดว่าน่าจะเป็นของพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ปรากฏว่าได้ในอดีตที่ผ่านเมื่อ ปี2556 ในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็น ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. โดยการนำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือ ผู้ชุมนุมให้ฉายาว่า “ลุงกำนัน”

 

 

 

ซึ่งเฟสบุ๊คดังกล่าว ก็ได้โพสต์ เรื่องราวเกี่ยวกับการชุมนุมไว้ ยกตัวอย่าง เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2556  ได้โพสต์ภาพนายสุเทพ ที่มีข้อความว่า “สนับสนุนคนไทย ให้ออกมาฆ่ากัน อย่างยอมกัน ประเทศไทยสงบมาพอแล้ว”. แล้วกับคำบรรยายว่า “ยึดที่ไหน...ก็ยึดไป...แต่ถ้ามายึด บชน. มาเท่าไหร่ ก็ขนศพกลับไปเท่านั้น ไม่ขาดไม่เกิน...” ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในขณะนั้นพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ดำรงตำแหน่ง ผกก.กก.2 บก.สส. บช.น. พอดิบพอดี