ดีแล้วได้มาทำงานต่อ สมเด็จพระสังฆราช ตรัสถึงพงศ์พร เมื่อทรงทราบว่าได้กลับมาเป็นผอ.สำนักพุทธฯ

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

จากกรณีเมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมาซึ่งได้มีการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ครั้งที่ 24/2560 โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นองค์ประธานที่ประชุม โดยก่อนการประชุม นายกนก แสนประเสริฐ รองผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) รักษาราชการแทนผอ.พศ. เข้าถวายเครื่องสักการะแด่สมเด็จพระสังฆราช เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ พร้อมน้อมรับพรจากสมเด็จพระสังฆราช

       ทั้งนี้ นายกนก ได้เปิดเผยหลังการประชุมด้วยว่า การประชุมครั้งนี้ มส.ไม่ได้มีการหารือถึงเรื่องการทุจริตงบประมาณอุดหนุนวัด ซึ่งล่าสุดในสำนวนของปปป. ล็อตที่ 2 พบชื่อพระสงฆ์ 4 รูป เป็นระดับพระสังฆาธิการ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ทางปปป.ได้ส่งสำนวนกรณีการทุจริตงบประมาณอุดหนุนวัดในล็อตที่ 2 มายังพศ.แล้ว ซึ่งทางพศ.จะนำข้อมูลเตรียมไว้ให้พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ที่จะเริ่มงานในวันที่ 2 ต.ค. พิจารณาร่วมกับข้อมูลของทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ที่ส่งมาก่อนหน้านี้

ดีแล้วได้มาทำงานต่อ สมเด็จพระสังฆราช ตรัสถึงพงศ์พร เมื่อทรงทราบว่าได้กลับมาเป็นผอ.สำนักพุทธฯ

       “ในการดำเนินการทางวินัยข้าราชการพศ. และพิจารณาดำเนินคดีทางแพ่งด้วย ส่วนรายชื่อพระสงฆ์ 4 รูป ตามสำนวนของปปป. ตนก็จะสรุปข้อมูลให้พ.ต.ท.พงศ์พร พิจารณาในการแจ้งไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองเพื่อพิจารณาด้านพระวินัยต่อไป โดยขณะนี้ได้เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตงบประมาณอุดหนุนวัดไว้พร้อมให้พ.ต.ท.พงศ์พร สานต่อได้ทันที ยืนยันว่าปัญหาทุจริตเรื่องดังกล่าว ไม่ได้ทำให้คณะสงฆ์เกิดความขัดแย้งกัน เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล เฉพาะบุคคล ซึ่งทางเจ้าคณะผู้ปกครองจะเป็นฝ่ายดูแลเอง ที่สำคัญในขณะนี้ยังไม่ถือว่าท่านมีความผิด”

 

       นอกจากนี้ นายกนก ยังเปิดเผยอีกว่า ในระหว่างส่งเสด็จสมเด็จพระสังฆราช ตนได้กราบทูลว่า จะเกษียณอายุหมดวาระการรับราชการแล้ว โดยสมเด็จพระสังฆราช ได้ตรัสถามตนว่า แล้วใครจะมาทำงานต่อ ตนจึงได้กราบทูลไปว่า พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช ได้ตรัสว่า ก็ดีแล้วจะได้มีคนมาทำงานต่อ

ดีแล้วได้มาทำงานต่อ สมเด็จพระสังฆราช ตรัสถึงพงศ์พร เมื่อทรงทราบว่าได้กลับมาเป็นผอ.สำนักพุทธฯ

       ด้านนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม แถลงหลังการประชุมมหาเถรสมาคมว่า เนื่องในวันที่ 13 ต.ค. 2560 ครบรอบ 1 ปี แห่งการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ประชุมมส.ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนามายาวนาน จึงมีมติให้วัดทั่วประเทศในราชอาณาจักรไทย และวัดไทยในต่างประเทศ ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องต้นกำหนดจัดพิธีดังกล่าวนับตั้งแต่ช่วงเช้า โดยให้พระภิกษุ 10 รูปสวดพระพุทธมนต์ สดับปกรณ์ และแสดงพระธรรมเทศนา

 

       “นอกจากนี้มส.ยังมีมติให้พระสงฆ์ที่ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศลดังกล่าว ใช้พัดยศเป็นกรณีพิเศษ เพื่อถวายพระเกียรติสูงสุดแด่พระองค์ท่าน ซึ่งพระองค์ได้โปรดเกล้าฯพระราชทานสมณศักดิ์แด่พระสังฆาธิการมาอย่างยาวนานสำหรับการจัดพิธีดังกล่าวให้วัดเจ้าคณะจังหวัด และวัดเจ้าคณะอำเภอ เป็นศูนย์กลางจัดพิธีดังกล่าว พร้อมกับวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้หากประชาชนอยู่ใกล้วัดใด ขอให้ไปวัดนั้น เพื่อร่วมถวายเป็นพระราชกุศลอีกวาระหนึ่ง อย่างไรก็ตาม วัดไทยในต่างประเทศนั้น ให้ดำเนินการจัดพิธีตามเวลาและความเหมาะสมของประเทศดังกล่าว หากวัดใดที่ไม่ได้เป็นศูนย์กลาง ควรต้องดูศักยภาพเพื่อให้พิธีดังกล่าวเป็นไปอย่างสมพระเกียรติมากที่สุด”

ดีแล้วได้มาทำงานต่อ สมเด็จพระสังฆราช ตรัสถึงพงศ์พร เมื่อทรงทราบว่าได้กลับมาเป็นผอ.สำนักพุทธฯ