สะเทือนหนัก!!! วัดรายได้หดวัน8หมื่น ไร้เงินเลี้ยงพระเณรเดือนละ2ล้าน?!? หรือถึงคราวปิดฉากพุทธพาณิชย์ จุดเริ่มต้นปฏิรูปวงการสงฆ์?!?

จากกรณีเจ้าคณะปกครองสงฆ์ทำหนังสือถึงเจ้าคณะในปกครองเพื่อแจ้งวัดทั่วประเทศให้ปฏิบัติตามธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ห้ามจำหน่ายพระบูชา วัตถุมงคล เทวรูปต่างๆ ห้ามปลุกเสกพระเครื่อง ห้ามแสดงพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิด ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ ปลุกปั่นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ห้ามเล่นเฟซบุ๊ก รวมถึงสั่งปลดป้ายงานพุทธาภิเษก(ปลุกเสก)หากพระภิกษุสามเณรผู้ใดไม่เคร่งครัด และละเมิดพระธรรมวินัยให้ลงโทษตามพระธรรมวินัย ฯลฯ โดยหลังจากออกคำสั่งดังกล่าวนี้ได้ปรากฏความเคลื่อนไหวในต่างๆทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายบูชาพระ วัตถุมงคลต่างๆ

       ทั้งนี้ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก หรือ วัดใหญ่ มีรายงานข่าวว่า ขณะนี้ยอดเงินบูชาวัตถุมงคลลดลงวันละ 80,000 หมื่นบาท ซึ่งอาจจะทำให้ไม่มีเงินใช้จ่ายสำหรับพระและเณรในวัด โดยจุดที่ให้เช่าบูชาวัตถุมงคล ที่เคยอยู่จากในวิหารหลวงพ่อพุทธชินราช ถูกย้ายออกมาวางด้านนอกวิหาร ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 4 ยอดเงินบูชาหายไปวันละ 80,000 บาท ทั้งที่เป็นเจ้าเดิมที่เคยอยู่ในวิหารแต่จากกฏดังกล่าว ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่แน่ใจว่าเป็นของแท้ของวัดหรือไม่

 

“วัดต้องติดป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งไว้ หากยอดเงินบูชาวัตถุมงคลตกลงต่อเนื่องเช่นนี้ วัดอาจจะไม่มีเงินใช้จ่ายสำหรับพระและเณรรวมกว่า 300 รูป โดยในแต่ละเดือนวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก มีรายจ่ายประมาณ 1-2 ล้านบาท รวม 4 วันที่ย้ายจุดบูชาวัตถุมงคลออกมาจากวิหาร รายได้หายไปแล้วกว่า 300,000 บาท”

       ขณะที่นางทองใบ พันธุ์ภูมิพฤกษ์ อายุ 72 ปีไวยาวัจกร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯกล่าวด้วยว่า หลังจากมีคำสั่งออกมา ทางวัดก็ปฏิบัติตาม เพราะเป็นวัดอารามหลวง ซึ่งก็ได้สั่งให้เคลื่อนย้ายวัตถุมงคลที่อยู่ในวิหารหลวงพ่อพุทธชินราช ออกมาวางให้พุทธศาสนิกชน ได้บูชากันที่ด้านนอกวิหาร ถามว่าเกิดสิ่งที่มีผลกระทบตามหรือไม่นั้น ตนคิดว่าได้รับผลกระทบต่อรายได้แน่นอน และคิดว่าจะไม่เพียงพอต่อรายจ่ายเพราะว่าทางวัดจะต้องอุปการะพระเณรกว่า 300 รูป

 

 

 

ขอบคุณ : thaipbs