"ร่างกายเราต้องแข็งแรง ถึงจะไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้" เรื่องเล่าของ เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา กับการมีวินัยในการออกกำลังกายของ ร.9

"ร่างกายเราต้องแข็งแรง ถึงจะไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้" เรื่องเล่าของ เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา กับการมีวินัยในการออกกำลังกายของ ร.9

    เพจเฟซบุ๊ก ตามรอยพ่อ ได้เผยแพร่ข้อความและรูปภาพเพื่อเล่าเรื่องราวในการมีวินัยเรื่องการออกกำลังกายของ ในหลวง ร.9 ของ ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ที่พระองค์ทรงมีวินัยในการออกกำลังกายนั้นไม่ได้แค่เพื่อพระวรกายส่วนพระองค์เท่านั้น แต่เพื่อการไปเยี่ยมเยือนประชาชน ณ. ถิ่นทุรกันดารได้อีกด้วย โดยระบุว่า  'ทรงมีวินัยในออกกำลังกายพระวรกายให้แข็งแรง เพื่อไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้'
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงให้ความสำคัญกับการออกกำลังพระวรกายเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่ทรงทำสม่ำเสมอ คือ ทรงวิ่งและทรงพระดำเนินโดยการจับเวลา ซึ่งดร. สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เล่าไว้ว่า...
    ทรงออกกำลังกายทุกวัน ไม่ว่าจะมีภารกิจใดๆ บางทีเสด็จฯ กลับมาพระราชวังสี่ถึงห้าทุ่ม ยังจะทรงเดิน...
เราก็นึกว่าทรงรักษาพระวรกายให้แข็งแรงเพื่อส่วนพระองค์เท่านั้น แต่มีรับสั่งว่า.."ไม่ใช่ เพราะเราทำงานพัฒนา ร่างกายเราต้องแข็งแรง เราถึงจะไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้" ..ทรงสั่งสอนพวกเราเวลาเห็นพวกเราไม่รักษาร่างกายว่า..."หากอยากเป็นนักพัฒนา ต้องบำรุงรักษาร่างกายไว้"

"ร่างกายเราต้องแข็งแรง ถึงจะไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้" เรื่องเล่าของ เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา กับการมีวินัยในการออกกำลังกายของ ร.9

"ร่างกายเราต้องแข็งแรง ถึงจะไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้" เรื่องเล่าของ เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา กับการมีวินัยในการออกกำลังกายของ ร.9

"ร่างกายเราต้องแข็งแรง ถึงจะไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้" เรื่องเล่าของ เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา กับการมีวินัยในการออกกำลังกายของ ร.9
 

      ซึ่งเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เสด็จฯ ไปทรงงานยังพื้นที่จริง ซึ่งเกือบ 100% เป็นที่ทุรกันดารบางแห่งข้าราชการยังไม่เคยไปหรือไม่กล้าไปเพราะกลัวอันตรายด้วยซ้ำหรือถ้าวันไหนอากาศไม่ดี หากเป็นผู้ใหญ่ไปดูงาน ฝนมาก็เลื่อนหรือยกเลิก แต่สำหรับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่มีคำว่า “ยกเลิก”เพราะอากาศไม่ดี แถมยังเสด็จฯ ออกนอกเส้นทางเป็นประจำ ถ้าทีมถวายความปลอดภัยกราบบังคมทูลว่า “เสด็จฯ ไม่ได้ ไม่มีถนนตัดผ่านพระพุทธเจ้าข้า” พระองค์ท่านจะรับสั่งกลับมาทุกครั้งว่า…“ฉันไปได้” ทั้งที่หลายครั้งต้องทรงพระราชดำเนินปีนป่ายไปบนภูเขาหรือทรงพระดำเนินไต่ลงไปในหุบเหว ที่เต็มไปด้วยโคลนตม ปลิง และทาก จนค่ำมืดดึกดื่น หลายครั้ง สมเด็จพระเทพฯ ตามเสด็จฯ ด้วย มีท่านพระองค์เดียวที่ดึงทากออกจากพระบาทได้ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องเล็กสำหรับในหลวง คำพ่อหลวง “ที่เขายากจนต้องมาทำมาหากินในพื้นที่แห้งแล้งเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะมา แต่เพราะเขาไม่มีที่อื่นจะไป ที่ฉันช่วยเขา ไม่ใช่ว่าจะช่วยตลอดไป แต่ช่วยเพื่อให้เขาได้มีโอกาสช่วยตัวเองต่อไป”

"ร่างกายเราต้องแข็งแรง ถึงจะไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้" เรื่องเล่าของ เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา กับการมีวินัยในการออกกำลังกายของ ร.9

"ร่างกายเราต้องแข็งแรง ถึงจะไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้" เรื่องเล่าของ เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา กับการมีวินัยในการออกกำลังกายของ ร.9
 

"ร่างกายเราต้องแข็งแรง ถึงจะไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้" เรื่องเล่าของ เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา กับการมีวินัยในการออกกำลังกายของ ร.9

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อม สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารตอนกลางคืน ท่ามกลางสายฝนโดยมิทรงย่อท้อ

 

"ร่างกายเราต้องแข็งแรง ถึงจะไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้" เรื่องเล่าของ เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา กับการมีวินัยในการออกกำลังกายของ ร.9

    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯเยี่ยมเยียนราษฎรในถิ่นทุรกันดาร และมีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกรแบบใกล้ชิดไม่ถือพระองค์ สร้างความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น

    "ร่างกายเราต้องแข็งแรง ถึงจะไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้" เรื่องเล่าของ เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา กับการมีวินัยในการออกกำลังกายของ ร.9

     ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ได้ทรงใกล้ชิดประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ พระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทยพระองค์นี้ ได้ทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งต้องการน้ำเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อการ เพาะปลูกและการดำรงชีวิต เฉพาะอย่างยิ่งราษฎรผู้ต้องอาศัยอยู่ในท้องถิ่นชนบททุรกันดารที่ขาดแคลน แม้กระทั่งแหล่งน้ำกินน้ำใช้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง เป็นเหตุให้เกิดปัญหาความยากจน ขาดเสถียรภาพ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นรากฐานของความ มั่นคงและมั่งคั่งของประเทศ และขาดคุณภาพชีวิตที่สมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ ในการเสด็จฯ เยี่ยมเยียนราษฎรแต่ละภูมิภาค จึงมิใช่เพียง แต่เสด็จพระราชดำเนินเพื่อให้ราษฎรได้ชมพระบารมีเท่านั้น แต่เพื่อทรงรับทราบถึงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพและ ความต้องการของราษฎร ด้วยพระเนตรพระกรรณของพระองค์เอง ที่สำคัญก็คือ ทรงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นให้บรรเทาลงหรือ หมดสิ้นไป เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและทัดเทียมกันของประชาชนทั้งชาติ

"ร่างกายเราต้องแข็งแรง ถึงจะไปเยี่ยมเยือนประชาชนถึงถิ่นทุรกันดารได้" เรื่องเล่าของ เลขาฯมูลนิธิชัยพัฒนา กับการมีวินัยในการออกกำลังกายของ ร.9

    ในทุกครั้งที่เสด็จฯ เยี่ยมเยียนราษฎร ไม่ว่าแห่งหนตำบลหรือภูมิภาคใด มิได้ทรงคำนึงถึงเส้นทางที่จะเสด็จพระราชดำเนินหรือ ภยันตรายใด ๆ หรือแม้พื้นที่ที่เสด็จฯ ไป จะต้องทรงพระดำเนินเป็นระยะทางหลาย ๆ กิโลเมตรตามเส้นทางที่ขรุขระ บางครั้งต้อง ขึ้นเขาลงห้วย บางครั้งต้องบุกป่าฝ่าดง ด้วยไม่มีเส้นทางถนนที่จะเข้าไปถึง ก็มิได้ทรงย่อท้อหรือเหนื่อยหน่ายพระราชหฤทัย หรือ แม้ขุนเขาจะสูงชัน แม้ฝนจะตกหนัก ตามเส้นทางที่จะเสด็จฯ ผ่าน เต็มไปด้วยน้ำขังและโคลนตม หรือแม้อากาศจะหนาวเหน็บหรือ ร้อนอบอ้าว ก็ไม่ทรงถือเป็นอุปสรรคกีดขวางการเสด็จฯ ไปให้ถึงตัวราษฎรที่ทรงห่วงใย และที่เฝ้ารอการเสด็จพระราชดำเนินไป ทรงเยี่ยมเยียนอย่างใจจดจ่อ ภาพที่คนไทยทั่วประเทศได้เห็นจนเจนตา เจนใจ ตลอดระยะเวลา ๕๐ ปีที่ผ่านมา พระมหากษัตริย์ ไทยพระองค์นี้เสด็จฯ เคียงข้างด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชโอรสและพระราชธิดา ประทับท่ามกลางราษฎร มีพระราชดำรัสซักถามถึงปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรด้วยความสนพระราชหฤทัย และเปี่ยมด้วยพระเมตตา ยังความชื่นชม โสมนัสในหมู่ราษฎรที่ทุกข์ยากเหล่านั้น นั่นคือกำลังใจที่จะทำให้พวกเขาลุกขึ้นสู้ชีวิตสู้ปัญหาโดยไม่ย่อท้ออีกต่อไป

 

ขอบคุณภาพและข้อมูล เพจตามรอยพ่อ