"เจอดี" บุก!! พิสูจน์ "ยาหมอแสง" ผิด กม.หรือไม่?? ฟังชัดๆจากปาก นพ.สสจ. (คลิป)

    จากกรณีที่มีประชาชนมากกว่า 5,000 คน จากทั่วสารทิศมารอรับยาสมุนไพรที่อ้างว่า รักษาโรคมะเร็งได้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ต.ค. 60 ที่ผ่านมา โดยผู้ที่เป็นเจ้าของยานี้ ชื่อ นาย นายแสงชัย  แหเลิศตระกูล ซึ่งเป็นผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้  ลูกสาวของนาย แสงชัย ได้ปว่ยเป็นโรคเนื้องอกในสอง  นายแสงชัยได้แสวงหาสูตรยารักษาจนหาย  แล้วต่อมาจึงแจกให้ผู้ป่วยคนอื่น   แรก ๆ ให้สมุนไพรกับผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่โรงพยาบาลไม่รับ โดยในยาเป็นเม็ดแคปซูลบรรจุรำข้าวนาปีหมักสมุนไพรหลายชนิด   นานกว่า 6 เดือน ให้ผู้ป่วยคนละ 12 เม็ด กินวันละ 1 เม็ดก่อนนอน   ซึ่งสมุนไพร ผลิตได้วันละ 25,000 เม็ดต่อวัน  และสำหรับ  ผู้ป่วย ที่ต้องการ   ส่วนใหญ่พากันเดินทางมารอ  ก่อนวันแจกยาประมาณ 1-2 วัน

"เจอดี" บุก!! พิสูจน์ "ยาหมอแสง" ผิด กม.หรือไม่?? ฟังชัดๆจากปาก นพ.สสจ. (คลิป)

     จะต้องเตรียมต้องเตรียม  เอกสารคำวินิจฉัยโรคมะเร็ง , ใบรับรองแพทย์ตัวจริง,ทะเบียนบ้าน ตัวจริง,บัตรประชาชน ตัวจริง ถ้าให้ญาติไปรับให้ต้องนามสกุลเดียวกัน  เอาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านคนรับแทนและคนป่วยแนบไปด้วย   พร้อมใบแจ้งความที่ สภอ. ปราจีนบุรี ว่าจะไม่เอาผิดกับผู้แจกยาจาก สภ.เมืองปราจีนบุรี    อันเป็นเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคล  เป็นการรักษามะเร็งอีกทางเลือกหนึ่งสามารถรักษาควบคู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน 
     หลังจากนั้นทีมข่าวของเราได้ลงพื่นที่ไปยังจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อไปสอบกับทาง นพ.โชคชัย สาครพานิช สสจ.จังหวัดปราจีนบุรี ทางทีมข่าวได้สอบเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางคุณหมอได้บอกกับทีมข่าวเราว่า ทางสาธารณสุขมีการจ่ายยาที่ ต.บางเดชะ เลยส่งทีมเข้าไปดูก็ทราบว่านายเเสงชัย มีการจ่ายยามาเป็นเวลานานเเล้ว เเละก็ใช้ยาตัวนี้รักษาลูกสาวดังที่เป็นข่าวเเละมีการบอกต่อๆ กันมาจนเป็นกระทางโซเชียล ส่วนทางสาธารณะสุขได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างยาไปตรวจสอบว่าภายในตัวยาเป็นสารประกอบอะไรบ้าง ถ้ามีการตรวจสอบเเล้วว่ามีสารจำพวกสารสเตียรอยด์ เป็นสารที่ช่วยให้รู้สึกมีเรี่ยวมีเเรงในช่วงเเรกๆ ในทางการเพทย์นั้นถ้าจะใช้ยาตัวนี้ต้องมีการควบคุมดูเเลอย่างไกล้ชิด จากนั้นทางทีมข่าวของเราได้ไปสอบถามกับผู้ใช้ยาอยู่ขณนี้ได้ความว่า เมื่อก่อนไปหาหมอก้รักษาทำคีโมมาดดยตลอดจนได้มีคนรู้จักเเนะนำให้ไปลองรับตัวยาชนดนี้ดู

     หลังจากการได้ทดลองใช้ปรากฎว่าร่างกายเริ่มรู้สึกดีขึ้นพอไปหาหมอ หมอก็บอกว่าร่างกายเร่มเเข็งเเรงขึ้นเเล้วจากนั้นก็ใช้ยามาโดยตลอด เพราะตนคิดว่าเป็นอีกทางเลือกนึงในการรักษา เเล้วยังบอกกับทางทีมข่าวอีกว่า ของเเบบนี้อยู่ที่ตัวคนเเล้วเเต่เคสๆ ไปอยู่วิจารณญาณส่วนบุคคล ตอนนี้ทางเเพทย์ยังคงต้องรอผลพิสูทจ์ต่อไป ว่าตัวยาชนิดนี้มีสารประกอบอะไรบ้าง ถ้าตัวยาผ่านการตรวจสอบก็จะนำมาจดทะเบียนตาม อย. เเต่ถ้ามีสารต้องห้าม ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รายระเอียดทาง สสจ. ปราจีนบุรีจะเเจ้งให้เพื่อให้ประชาชนคลายข้อสงสัยเร็วๆนี้