- 06 ต.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
จากกรณีคำสั่ง พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม )หรือ เจ้าคุณเอื้อน วัดสามพระยา ในฐานะเจ้าคณะ กทม. ออกคำสั่งที่ จค 141/2560 ถึงเจ้าคณะเขตทุกเขตใน กทม. เรื่อง ห้ามติดแผ่นป้ายการโฆษณาพระพุทธรูป พระเครื่อง วัตถุมงคล และเทวรูปในที่ต่างๆความว่า“เนื่องด้วยในปัจจุบัน มีกลุ่มบุคคลใช้ความเชื่อทางด้านศาสนามาแสวงหาผลประโยชน์ ได้ทำการโฆษณาสรรพคุณพระบูชา และวัตถุมงคล โดยอ้างแหล่งที่มาของวัสดุ ที่นำมาสร้างพระบูชาวัตถุมงคล และเทวรูปต่างๆ ตลอดถึงอ้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงหลักธรรมคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา ทำให้ประชาชนเกิดความหลงผิด
ทั้งนี้เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร จึงขอให้เจ้าคณะเขตทุกเขต ได้สอดส่องดูแลการโฆษณาการจัดสร้างพระบูชา วัตถุมงคล และเทวรูป ทางสื่อต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีการเผยแพร่พุทธธรรมอย่างถูกต้องชัดเจน อนึ่ง เนื่องจากพระอุโบสถหรืออุโบสถ เป็นสถานที่ที่พระภิกษุสงฆ์ใช้ทำสังฆกรรมตามพระวินัย จึงขอให้เจ้าคณะเขตทุกเขต ได้แจ้งให้วัดทุกวัดในเขตปกครอง ไม่ควรจำหน่ายพระบูชา วัตถุมงคล และเทวรูปต่างๆ ภายในและบริเวณพระอุโบสถหรืออุโบสถคำสั่ง”
ต่อมาเฟซบุ๊กของพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ได้มีการโพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวด้วย โดยเนื้อหาทั้งหมดระบุว่า
๒ ตุลาคม ๒๕๖๐
ข่าวพระพรหมดิลก (เจ้าคุณเอื้อน หาสธมฺโม) วัดสามพระยา เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
ออกคำสั่ง ห้ามคณะสงฆ์ในเขตกรุงเทพติดแผ่นป้ายการโฆษณาพระพุทธรูป พระเครื่อง วัตถุมงคล และเทวรูปในที่ต่างๆ
พุทธะอิสระขอเพิ่มข้อห้ามอีกซักข้อสองข้อได้ไหมเจ้าคุณ
ห้ามมีกิ๊ก และห้ามสะสมกิ๊ก
ห้ามมีเงินทอง และห้ามสะสมเงินทอง
ห้ามรับสินบน และห้ามไปงานฉลองพัดยศ
ข้อห้ามเหล่านี้น่าจะมีคุณูปการแก่พระธรรมวินัยในขณะนี้มากกว่ามั้งเจ้าคุณ
หรือว่าเจ้าคุณกลัวถูกย้อนศร
ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในขณะยังเป็นสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) ได้มีการเผยแพร่ประวัติว่าท่านนั้นฯเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร พระธุดงค์กรรมฐานชื่อดังในจังหวัดสกลนคร ทั้งยังเป็นพระธรรมทูตไปต่างประเทศรุ่นแรกของคณะสงฆ์ธรรมยุต และเป็นหัวหน้านำพระพุทธศาสนาจากประเทศไทยไปเผยแผ่ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยได้วางรากฐานพระพุทธศาสนาจนมั่นคง มีวัดและพระสงฆ์ไทยอยู่ประจำ ณ นครซิดนีย์ มาจนถึงปัจจุบัน และได้ขยายไปยังเมืองใหญ่อีกหลายเมือง เช่น กรุงแคนเบอร์รา นครเมลเบิร์น และเมืองดาร์วิน เป็นต้น
โดยที่ผ่านมามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับวัตรปฏิบัติของ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ว่า “มีโยมท่านหนึ่งกราบเรียนถามท่านเจ้าประคุณสมเด็จว่า ท่านอาจารย์ ปัจจัยมากๆ ท่านอาจารย์ใช้ปัจจัยอย่างไรครับผม ท่านเจ้าประคุณสมเด็จท่านก็เมตตาพูดให้ฟังว่า ปัจจัยที่เราได้มานั้น
1.นำเข้ามูลนิธิหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่ท่านเป็นประธานอยู่
2.นำไปช่วยเหลือโรงเรียนวัดราชบพิธ ที่ท่านเป็นประธานอยู่
3.นำมาสงเคราะห์ให้กับพระเณร ที่อาศัยอยู่ในวัดราชบพิธ และช่วยเหลือผู้คนที่ยากไร้
สุดท้ายท่านเจ้าประคุณสมเด็จได้กล่าวไว้ว่า เราไม่มีแม้สักแดงเดียวนะ เราไม่สะสม แม้แต่เหรียญอาจารย์ฝั้นสักเหรียญเรายังไม่มี รถเราก็ไม่มี