อ่านแล้วจะได้คำตอบ!! "ทนายเกิดผล" ไขข้อสงสัย สาวโชคร้ายสายไฟลุกไหม้ตกใส่รถไร้คนรับผิดชอบ ต้องแตกประเด็นให้ชัด...ต้นตอจะโผล่เอง??

จากกรณีเจ้าของรถยนต์รายหนึ่งได้ร้องเรียนผ่านโซเชียล หลังจากกิ่งไม้ของโครงการบ้านชื่อดังไปสีสายไฟของการไฟฟ้าจนสายไฟลุกไหม้ ชนวนละลายตกลงมาใส่รถของเจ้าตัว จึงมีการนัดพูดคุยเพื่อตกลงความรับผิดชอบแต่ต่างฝ่ายต่างโยนความรับผิดชอบกันไปมา ซึ่งเจ้าตัวเอ่ยปากว่าต้องรับผิดชอบเองใช่ไหม ก่อนได้รับคำตอบจากกลุ่มบุคคลดังกล่าวว่า "มันเป็นเหตุสุดวิสัย" ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์หลายความเห็น (คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เจอสภาพแบบนี้..เป็นใครก็เซ็งโคตร!! สาวจอดรถหน้าบ้านทุกวันก็ปกติดีแต่วันนี้ไม่ใช่ ต้นเหตุมาจากสายไฟลุกไหม้ตกใส่ ชาวเน็ตว่าไง..ควรโทษใครผิด!!?)

 

ล่าสุด เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว ทางทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้เปิดเผยข้อมูลถึงประเด็นชนวนสายไฟละลายใส่รถยนต์  โดยทนายเกิดผล กล่าวว่า ประเด็นนี้จะต้องพิจารณาแยกเป็นประเด็น คือ ประเด็นแรก การไหม้ของสายไฟจุดที่ไหม้นั้นเกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าโดยตรง แล้วลุกลามไปที่สายไฟหรือไม่ หากใช่ทางการไฟฟ้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

 

ประเด็นที่ 2 คือ สายไฟที่ไหม้นั้นผ่านพ้นจากหม้อแปลงมาแล้ว เกิดเสื่อมสภาพของสายไฟเองหรือไม่ หากเป็นการชำรุดของสายไฟ ก็ต้องดูว่าใครเป็นเจ้าของ ทางเจ้าของสายไฟจะต้องรับผิดชอบ หากสายไฟเชื่อมโยงเข้าบ้านของใคร เจ้าของบ้านต้องรับผิดชอบ ซึ่งต้องไปตรวจสอบร่วมกัน

 

 

ส่วนประเด็นที่ 3 หากสายไฟไม่ได้ชำรุดเองตามสภาพ แต่เกิดจากปัจจัยอื่น อย่างเช่น กิ่งไม้ ก็ต้องดูว่าต้นไม้นั้น ใครเป็นเจ้าของ หากเป็นบ้านคนที่ปลูกต้นไม้แล้วยื่นออกมาโดน เจ้าของบ้านต้องรับผิดชอบ เพราะต้องดูแลต้นไม้ในบ้านตนเอง แต่ถ้าหากต้นไม้เป็นของโครงการหมู่บ้าน ทางโครงการก็ต้องรับผิดชอบ หากปัญหาเกิดจากใคร คนนั้นจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

ทนายเกิดผล กล่าวอีกว่าคดีนี้ถือเป็นคดีความทางแพ่ง แน่นอนว่าต้องมีผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว เพราะสามารถไล่หาสาเหตุได้ว่าเกิดจากใคร ส่วนผู้เสียหายนั้นสามารถเข้าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันได้ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

 

ขณะที่ทางด้านคุณนิว สาวเจ้าของรถ บอกว่าอยากให้ทางโครงการแสดงความรับผิดชอบ สิ่งที่ออกมาพูดตนไม่ได้เรียกร้องอะไร พร้อมกับอยากรู้ว่าคราบสายฉนวนหล่นใส่รถลูกบ้านที่มีราคาแพง  ทางโครงการจะทำอย่างไร และอยากให้ทางโครงการ ดูแลเรื่องความปลอดภัยให้มากกว่านี้ ส่วนที่ไม่ได้เอารถไปจอดภายในที่ทำงาน เนื่องจากสถานที่ทำงานไม่มีที่จอดรถภายใน จึงต้องจอดรถบริเวณข้างหน้าสถานที่ทำงาน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คงต้องระมัดระวังในการจอดรถข้างนอกอาคารให้มากขึ้นกว่าเดิม.

 

 

ชมคลิปวิดีโอรายการที่นี่

 

ที่มา : รายการทุบโต๊ะข่าว AMARIN TVHD, FB แหม่มโพธิ์ดำ