ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. เฟซบุ๊ก เกิดผล แก้วเกิด ของทนายความชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า...

#ตั้งโต๊ะปรับได้หรือไม่ ???
การที่เจ้าพนักงานจราจร ตั้งด่านจับกุม หรือ กวดขันวินัยจราจร และ มีการตั้งโต๊ะเปรียบเทียบปรับ ในบริเวณนั้น #เป็นเพียงการอำนวยความสะดวก ในการชำระค่าปรับ ของผู้ขับขี่ที่กระทำผิดกฎจราจรเท่านั้น

ส่วนผู้ขับขี่ จะชำระค่าปรับหรือไม่ก็ได้ เพราะผู้ต้องหา หรือผู้ถูกจับ บางคนอาจปฎิเสธความผิด และขอสู้คดีก็ได้

 

ตาสว่างสักที!!! "ทนายเกิดผล" ชี้ด่านตำรวจ "ตั้งโต๊ะปรับ" ไม่มีสิทธิบังคับให้จ่ายค่าปรับทันที แถมถ้าไม่ยอมปล่อยตัวผู้ขับขี่ ตร.มีความผิด!??

นอกจากนั้น พระราชบัญญัติจราจรทางบก.มาตรา 141 ก็ให้สิทธิของผู้ขับขี่ ที่จะชำระค่าปรับ ตามอธิบดีกำหนดก็ได้ ซึ่งปัจจุบันสามารถชำระได้หลายวิธี คือ
1.ชำระค่าปรับต่อพนักงานสอบสวนที่ สถานีตำรวจ
2.ชำระค่าปรับผ่าน ไปรษณีย์
3.ชำระค่าปรับผ่านธนาคาร
ภายในกำหนดระยะเวลา 7 หรือ 10 วัน แล้วแต่กรณี

 

ตาสว่างสักที!!! "ทนายเกิดผล" ชี้ด่านตำรวจ "ตั้งโต๊ะปรับ" ไม่มีสิทธิบังคับให้จ่ายค่าปรับทันที แถมถ้าไม่ยอมปล่อยตัวผู้ขับขี่ ตร.มีความผิด!??

 

#แต่ไม่มีบทกฎหมายบังคับให้ผู้ขับขี่ที่เป็นผู้ต้องหาหรือถูกจับต้องชำระค่าปรับทันที
การไม่ชำระค่าปรับทันที หรือล่วงพ้นกำหนดเวลาตามกฎหมาย ที่เจ้าพนักงานจราจร เรียกเก็บใบอนุญาตไว้ชั่วคราว (7 วัน) ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะใช้วิธีการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ให้ออกหมายเรียก มารับทราบข้อกล่าวหา และส่งตัวฟ้องศาลต่อไป

 

ตาสว่างสักที!!! "ทนายเกิดผล" ชี้ด่านตำรวจ "ตั้งโต๊ะปรับ" ไม่มีสิทธิบังคับให้จ่ายค่าปรับทันที แถมถ้าไม่ยอมปล่อยตัวผู้ขับขี่ ตร.มีความผิด!??

การตั้งโต๊ะเปรียบเทียบปรับ เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกในการชำระค่าปรับเท่านั้น #แต่ไม่มีสิทธิบังคับให้ชำระค่าปรับทันที
หรือออกใบสั่งให้แล้ว แต่ไม่ยอมปล่อยตัวผู้ขับขี่ ถ่วงเวลาไว้ เพื่อให้ผู้ขับขี่ ชำระค่าปรับทันที ที่โต๊ะปรับมิฉะนั้น ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

 

ตาสว่างสักที!!! "ทนายเกิดผล" ชี้ด่านตำรวจ "ตั้งโต๊ะปรับ" ไม่มีสิทธิบังคับให้จ่ายค่าปรับทันที แถมถ้าไม่ยอมปล่อยตัวผู้ขับขี่ ตร.มีความผิด!??

ตาสว่างสักที!!! "ทนายเกิดผล" ชี้ด่านตำรวจ "ตั้งโต๊ะปรับ" ไม่มีสิทธิบังคับให้จ่ายค่าปรับทันที แถมถ้าไม่ยอมปล่อยตัวผู้ขับขี่ ตร.มีความผิด!??

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก เกิดผล แก้วเกิด