เปลือยธาตุแท้ !?!? ดูกันชัดๆ ถอดหน้ากาก "ทักษิณ" อีกครั้ง กับการให้สัมภาษณ์หมิ่นเหม่สถาบัน!

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2558 มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอการสัมภาษณ์พิเศษนายทักษิณ  ชินวัตร ผ่านทางเว็บไซต์ยูทูป   โดยมีเนื้อหาที่ตอกย้ำและเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความคิดของนายทักษิณ  ที่มีต่อประเทศไทยโดยยังวนเวียนอยู่กับความเชื่อที่ว่า การทำรัฐประหารปีพ.ศ.2549และ2557 มีผู้อยู่เบื้องหลัง  โดยได้มีการใส่ร้ายและพาดพิงไปยังคณะองคมนตรีและมีเนื้อหาที่หมิ่นเหม่ต่อการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112อย่างชัดเจน 
 

เปลือยธาตุแท้ !?!?  ดูกันชัดๆ ถอดหน้ากาก "ทักษิณ" อีกครั้ง กับการให้สัมภาษณ์หมิ่นเหม่สถาบัน!

เปลือยธาตุแท้ !?!?  ดูกันชัดๆ ถอดหน้ากาก "ทักษิณ" อีกครั้ง กับการให้สัมภาษณ์หมิ่นเหม่สถาบัน!

นายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเป็นภาษาไทย ซึ่งบันทึกเทปโดย Chosun Media (โชซัน มีเดีย) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเมืองในประเทศไทย เผยแพร่ผ่านยูทูปเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2558 ความว่า

ประเทศไทย ตราบใดที่เขาปล่อยให้ทำงาน ก็ยังมีอำนาจ แต่ถ้าไม่ปล่อยให้ทำงานก็ไม่มีอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองคมนตรีทั้งหลาย เที่ยวนี้ทหารก็จะฟังองคมนตรี เพราะตอนที่เขาไม่ต้องการให้เราอยู่ เขาก็ให้สุเทพออกมา และให้ทหารเข้ามาช่วย และก็มีพวกบางคนจาก(จุด จุด จุด) มาช่วย เลยทำให้เราไม่มีอำนาจอะไร ผมก็เลยคุยกับนายกรัฐมนตรี ปูว่าเหตุการณ์เหมือนที่พี่โดนมาทหารเขาอาจจะชื่นชอบประชาธิปไตยแบบพม่า ที่พม่าเลิกแล้ว แต่เค้าชอบอย่างนั้นไง เราไม่รู้ ผมก็ยังตำหนิเค้าไป เขาก็ยังอายุน้อย เค้าคงโกรธ ที่ปฏิวัติแบบนี้ เค้าก็คงโกรธว่าประเทศไทยมาดีๆแล้ว  แต่เค้าคงโกรธนะ เราเป็นครอบครัวสาธารณะ จะพูดอะไรต้องระมัดระวัง

ในขณะที่การให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้พูดพาดพิงไปถึงสถาบันองคมนตรี และหมิ่นเหม่ต่อการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112อย่างชัดเจน

หากพิจารณาจากคำพูดของนายทักษิณ จะเห็นได้ว่า ไม่เคยมองถึงความผิดพลาดในการบริหารประเทศ ในสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรีและสมัยที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

เปลือยธาตุแท้ !?!?  ดูกันชัดๆ ถอดหน้ากาก "ทักษิณ" อีกครั้ง กับการให้สัมภาษณ์หมิ่นเหม่สถาบัน!

เปลือยธาตุแท้ !?!?  ดูกันชัดๆ ถอดหน้ากาก "ทักษิณ" อีกครั้ง กับการให้สัมภาษณ์หมิ่นเหม่สถาบัน!

ซึ่งเกิดความผิดพลาดและความเสียหายต่อประเทศชาติบ้านเมืองอย่างมหาศาลจนเป็นเหตุที่ทำให้กองทัพได้ออกมายึดอำนาจทั้งสองครั้งและสามารถอธิบายเหตุผลถึงการยึดอำนาจเอาไว้ได้อย่างชัดเจน

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 เวลา 16.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจประกาศว่าประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557 เรื่องการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และพื้นที่ต่างๆ ของประเทศหลายๆ พื้นที่ เป็นผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์อย่างต่อเนื่อง

และเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มขยายตัวจนอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวมนั้นเพื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรักความสามัคคี        

เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทุกพวกทุกฝ่าย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 เวลา 16.30 น.

ส่วนการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. ได้ให้สาเหตุเอาไว้ 4 ประการด้วยกัน คือ 
1.รัฐบาลขณะนั้น มีการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมโหฬาร 
2.รัฐบาลพยายามผูกขาดอำนาจและแทรกแซงองค์กรอิสระต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ 
3.รัฐบาลสร้างความแตกแยกในชาติจนมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่วิกฤติกลียุคนองเลือด 
และ 4.รัฐบาลปล่อยให้มีการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่เคยมีมาก่อน

พิจารณาจากเหตุผลการยึดอำนาจ 2 ครั้งที่ผ่านมาเป็นที่ชัดเจนว่ารัฐบาลของนายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีการบริหารประเทศที่ผิดพลาดซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งอย่างรุนแรงของคนในชาติ และมีการคอรัปชั่นเชิงนโยบาย 

ที่สำคัญยังเป็นรัฐบาลที่ปล่อยให้มีการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

ทั้งนี้หากย้อนกลับไปตรวจสอบพฤติกรรมโดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์นายทักษิณได้พูดถึงองคมนตรีโดยข้อความมีเนื้อหาที่หมิ่นเหม่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 หลายต่อหลายครั้ง

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2552 นายทักษิณ วีดีโอลิงค์มายังการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ปักหลักชุมนุมด้านหน้า ทำเนียบรัฐบาลว่า ประธานองคมนตรี พล.อ.เปรม เป็นผู้อยู่เบื้องหลังรัฐประหาร พ.ศ. 2549 และองคมนตรีบางท่าน คือ พล.อ.สุรยุทธ์ และ ชาญชัย ลิขิตจิตถะ ได้ใช้อำนาจทหารค้ำตำแหน่งของนายอภิสิทธิ์

คำพูดตอนหนึ่งยังระบุอีกว่า “การที่ป๋าลงมาเล่น แล้วสั่งโน่นนี่ ในฐานะเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญมันเป็นสิ่งที่ทำให้กระบวนการของประเทศเสียหายหมด ระบบสองมาตรฐาน ความไม่เป็นธรรมในสังคมเกิดขึ้น”

15 มีนาคม 2553 นายทักษิณ ได้วีดีโอลิงค์ มายังกลุ่มผู้ชุมนุมนปช. เวทีสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งไม่ว่าคนไหนที่ได้ฟัง คงรู้สึกสับสน และตั้งคำถามขึ้นในใจตัวเอง กับวลีตอนหนึ่งที่ได้ระบุถึงอำมาตย์อายุ80กว่านั้น ว่าหมายถึงใคร 

และเหนือสิ่งอื่นใด การสื่อสารกับกลุ่มนปช.ด้วยประโยคดังกล่าวนายทักษิณกำลังนึกคิดและมีความประสงค์อะไรอยู่ภายในใจกันแน่“ความคิดของท่านมันตกโลกไปแล้ว อย่าฉุดคนไทยให้ตกโลกไปกับท่านเลย เพราะอีกไม่นานท่านก็ลาโลกนี้แล้ว...อำมาตย์อายุ80กว่า คงไม่เข้าใจหรอก”

จากพฤติการณ์ในอดีตทั้งหมดทั้งมวลของนายทักษิณ ซึ่งกินระยะเวลามาแล้วหลายปีแสดงให้เห็นว่าครั้งแล้วครั้งเล่าที่นายทักษิณใส่ร้ายและล่วงเกินองคมนตรีซึ่งมีเนื้อหาหมิ่นเหม่ต่อการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112

เปลือยธาตุแท้ !?!?  ดูกันชัดๆ ถอดหน้ากาก "ทักษิณ" อีกครั้ง กับการให้สัมภาษณ์หมิ่นเหม่สถาบัน!