เลวกว่าที่คิด!!ดีเอสไอขยายสอบแก๊ง18มงกุฎหลอกแต่งชุดนายพลตร. ขรก.ใหญ่ สุดอึ้งมีเหยื่อ 400 บริษัทเสียหายกว่า300ล้าน?? (คลิป)

พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้ารับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหาย ที่ถูกบริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด(ไทย) หลอกให้ร่วมลงทุนในโครงการสัมปทานการก่อสร้างที่อ้างว่ายู่ในประเทศพม่า โดยพันตำรวจตรี สุริยาเปิดเผยว่า หลังจากดีเอสไอ ตำรวจกองปราบ และทหาร ได้จับกุมนางสุภัตทา จันทรรังษี ประธาน กรรมการบริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด(ไทย) นายโกสินธ์ หรือเบียร์ จินาอ่อน บก.นิตยสารท้องถิ่น ที่ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน รวมถึง ออกหมายจับนายกอว มิน อู หรือ เทพโยธิน มหาทุน ที่แอบอ้างเป็นเจ้ารัฐมอญ ขณะนี้หลบหนีอยู่ที่ประเทศพม่า หลอกร่วมลงทุนในประเทศพม่า รวมถึงได้ตรวจค้นศูนย์ประสานงานบรรเทาภัยพลเมือง มูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ตั้งในพื้นที่เขตมีนบุรี หลังพบมีความเชื่อมโยงว่าร่วมกันหลอกลวงประชาชน

โดยมีขบวนการบุคคลแอบอ้างเป็นสื่อร่วมด้วยคอยเพื่อคอยสร้างภาพให้ขบวนการดังกล่าวดูน่าเชื่อถือ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีการแอบอ้างมูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

 

ทั้งนี้จากการตรวจค้นห้องพักของนางสุภัตทา พบเอกสารโครงการก่อสร้างทั้ง 78 โครงการที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหายพร้อมตัวร่างสัญญาโครงการซึ่งพบว่าเป็นของปลอม นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มดังกล่าวมีการแอบอ้างขายชั้นยศ ข้าราชการตำรวจ โดยยศ พล.ต.ต.ขายที่ราคา 50,000 บาท ยศ พล.ต.ท.ขายที่ราคา 80,000 บาทด้านนายชานนท์ (สงวนนามสกุล) ตัวแทนผู้เสียหายเปิดเผยว่า กลุ่มบุคคลในบริษัท ฮัจยี ชักชวนไปสมัครเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ และชักชวนให้ร่วมลงทุนในโครงการสัมปทานก่อสร้าง เรื่ิงจากตนเองทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดนเสนอค่าตอบแทนสูง ลงทุนเพียง 1-2 แสนบาท แต่จะได้ผลประโยชน์ตอบแทนหลายร้อยล้านบาท และเหตุผลที่หลงเชื่อเพราะมีการแอบอ้างภาครัฐ ยศข้าราชการ และอ้างถึงทุนจดทะเบียนบริษัท 5 แสนล้านบาท

 

 

 

อย่างไรก็ตามขณะนี้มีผู้เสียหายแล้วกว่า 400 บริษัท มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท และขอให้ผู้เสียหายเข้ามาแสดงตนและแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดก่อนที่จะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ที่ผ่านมามีการข่มขู่ผู้เสียหายไม่ให้เข้าแจ้งความ ซึ่งก่อนหน้านี้ ดีเอสไอ ได้เคยประสานผู้เกี่ยวข้องกับรัฐมอญมาให้ข้อมูลแล้วพบว่าไม่มีสวนเกี่ยวข้องกับเจ้ารัฐมอญแต่อย่างใด และที่ผ่านมากลุ่มบุคคลนี้ปฎิเสธที่จะให้ตรวจสอบ เบื้องต้นการตรวจสอบพบว่าบุคคลกลุ่มดังกล่าวกระทำความผิดฐานฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ส่วนจะเข้าข่ายฟอกเงินหรื อไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนที่มีสื่อนำเสนอข่าวของกลุ่มบริษัทนี้ก็ต้องตรวจสอบว่าการนำเสนอข่าวมีเจตนารู้เห็นด้วยหรือไม่