กระหึ่ม..เชียงใหม่!! อธิบดีกรมปกครองสั่งสอบแล้ว ปมฉาวเจ้าอาวาสวัดสวนดอกสวมสิทธิ์บัตรปชช.คนตาย ลูกศิษย์ปัดหลบหน้า..อ้าวแล้วอยู่ไหนล่ะ??

จากกรณีที่อดีตผกก.บุกศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความ เพื่อขอจับเจ้าคณะอำเภอ ซึ่งจากการตรวจสอบพฤติกรรมและหลักฐาน พบว่ามีการสวมรอยบัตรคนตาย ก่อนจะขยับฐานนะขึ้นมาเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ และยังมีหลักฐานที่ชี้ชัดว่าพระรูปนี้อาจไม่ได้มีสัญชาติไทย แต่เป็นคนต่างด้าวปลอมตัวเข้ามาเป็นพระสงฆ์ 

 

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : วงการสงฆ์สะเทือนหนัก!! อดีตผกก.แจ้งจับ 2 เจ้าอาวาสวัดดังเชียงใหม่ อ้างพบหลักฐานสำคัญ...สวมสิทธิ์บัตรปชช.คนตาย!?

 

 

 

ล่าสุดวันนี้  (9 ต.ค.) ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าว ว่าการร้องเรียนสอบเจ้าอาวาสวัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่นั้น ซึ่งมีหมายเลขประจำตัวประชาชนตรงกับ ด.ช.ดวงดิน เวียงดินคำ ที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2538 ว่าเป็นการสวมสิทธิ์คนตายหรือไม่นั้น ว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยอมรับว่าสมัยก่อนพบการทุจริตการสวมบัตรประชาชนคนตายค่อนข้างมาก แต่ในช่วงเวลานี้ถือว่ามีการตรวจสอบและใช้ระบบออนไลน์เข้ามาดูแลในฐานข้อมูลบัตรประชาชน 

 

 

ดังนั้นเมื่อพบปัญหาจะต้องมีการตรวจสอบ ถ้าพบว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญา แม้จะเป็นพระผู้ใหญ่ก็จะต้องมีการตรวจสอบ โดยสำนักทะเบียนราษฎร์จะมีการตรวจสอบตามข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งจะใช้เวลาไม่นาน แต่กระบวนการว่าใครมีส่วนร่วมในการสวมบัตรประชาชนคนตาย หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนสอบสวนทางวินัย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เพราะเรื่องเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2538 อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ยังไม่ได้รายงานมายังตน ส่วนจะต้องมีการประสานสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาดูแลหรือไม่นั้นเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง แต่กระทรวงมหาดไทยจะดูในเรื่องของการสวมบัตรประชาชน ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน

 

 

ส่วนด้านพระที่ถูกแจ้งจับ หรือ พระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่นั้น หลังจากที่เกิดกรณีร้องเรียนให้ตรวจสอบ ก็พบว่ายังคงเก็บตัวเงียบและไม่สามารถติดต่อได้ โดยที่วัดแจ้งให้ทราบว่า พระราชรัชมุนี ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ที่ดอยอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงก่อนเข้าพรรษาแล้ว และจะไปจำพรรษาอยู่นานประมาณ 1 ปี เพื่อเขียนตำราภาษาบาลีที่จะนำไปใช้สำหรับการสอนหนังสือให้พระเณร ซึ่งได้มอบหมายงานให้รองเจ้าอาวาส และรองเจ้าคณะอำเภอ รับผิดชอบแทน  และสำหรับเรื่องที่ถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบเกี่ยวกับการสวมบัตรนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดใดๆ ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า ด้านพระเทพมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีความสนิทกับพระราชรัชมุนี เตรียมแต่งตั้งทนายความให้ดำเนินการกรณีที่เกิดขึ้นนี้แล้ว
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณภาพและคลิป : รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ช่อง 3