- 19 ต.ค. 2560
ติดตามรายละเอียดที่นี่ http://www.tnews.co.th
หลังจากเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 10 ปี ที่พลัดตกลงไปในคลองชมภู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก นานร่วมกว่า 20 ชั่วโมง นำรถแบคโฮขุดเปิดทางแล้วนำเชือกคล้องดึงขึ้นมาบนฝั่งได้ในสภาพอ่อนแรง เนื่องจากจมอยู่ในน้ำเป็นเวลานานและมีอาการสำลักน้ำ โดยมีทีมสัตวแพทย์สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง คอยให้การดูแลและเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด (คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ด่วนสุดๆๆๆ!!! อนุโมทนาบุญทุกน้ำใจเมตตา ปฏิบัติการช่วยช้างป่าพลัดจมน้ำคลองนานเฉียด 20 ชม. เป็นผลสำเร็จแล้ว!?!)
ความคืบหน้าล่าสุดของเจ้าช้างป่า นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เปิดเผยว่า ขณะนี้ช้างมีอาการดีขึ้นแล้วหลังจากให้น้ำเกลือ และได้พยายามใช้รถแบคโฮพยุงช้างเชือกดังกล่าวให้ยืนขึ้น ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงจนมันสามารถยืนได้ โดยเจ้าหน้าที่ผูกช้างกับต้นไม้ ให้พิงไว้ตามหลักการดูแลช้าง รอสัตว์แพทย์มาประเมินอาการต่อ หากอาการไม่หนักมากจะดูแลต่อที่นี่ แต่ถ้าอาการหนักจะส่งต่อไปที่จ.ลำปาง
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้บาดแผลน่าเป็นห่วงคือแผลด้านใน ยังไม่ยืนยันว่าขาหักหรือไม่ เริ่มกินอาหารเป็นกล้วยกับฟางได้บ้างแล้ว อย่างไรก็ตามในพื้นที่มีช้างป่ากว่า 10 เชือก ตัวนี้คาดว่าน่าจะตกน้ำมาไกลพอสมควร พบมีอาการบาดเจ็บที่ขาหลังซ้ายทำให้ยืนไม่ได้ ยังคงต้องเฝ้าติดตามตลอด 24 ชม. และจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาทางรักษา
ส่วนในการขนย้ายช้างไปที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง เพื่อทำการรักษานั้นทางเจ้าหน้าที่จะต้องรอคำสั่งจากอธิบดีกรมสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เนื่องจากเป็นสัตว์ป่า
ด้าน นายเดชา หัวหน้าหน่วยกู้ภัยบูรพา และทีมข่าววิภาวดี ยืนยันช้างตัวดังกล่าวเป็น ช้างพลาย มีงวงสีออกชมพู จึงให้ชื่อว่า "พลายชมพู" อายุประมาณ 10 ปีอยู่ในวัยคึกคะนอง เป็นช้างป่า ไม่คุ้นกับคน เจ้าหน้าที่ยังเกรงว่าหากเริ่มแข็งแรงขึ้นอาจเริ่มฟาดงวงใส่คน จึงต้องกันพื้นที่และเฝ้าติดตามตลอด แม้พื้นที่ดังกล่าวจะเป็นพื้นที่ภายในอุทยาน แต่เปิดให้ประชาชนเข้าทำสวนซึ่งถัดจากจุดนี้ไปจะเป็นป่า
ขณะที่เช้านี้ (19 ต.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันประชุมเพื่อหาแนวทางเคลื่อนย้ายช้างเชือกดังกล่าว เพื่อนำไปรักษาตัวต่อที่จังหวัดลำปางศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเจ้าช้างป่าผูกติดไว้กับต้นยางใกล้ที่ช้างขึ้น พร้อมทำคอกกันช้างล้มโดยการนำก้อนฟางมาเรียงกั้นรอบตัวช้างไว้ไม่ให้ล้ม ชาวบ้านในพื้นที่ยังได้ร่วมใจกันตัดต้นอ้อยและกล้วยมาให้กินอยู่เป็นระยะ เมื่อชาวบ้านและทีมแพทย์หลังเห็นช้างยืนได้ต่างก็ดีใจและหวังว่าช้างจะอาการดีขึ้นเป็นลำดับ.
cr.FB ทีมข่าววิภาวดี, fm91trafficpro, js100, ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center Lampang, นายพิษณุชัย ทรงพุฒิ