ป่วนกันใหญ่..สาวไส้กันอีกยาว!! 7 องค์กรพุทธเชียงใหม่ลุกฮือป้อง“เจ้าอาวาสวัดสวนดอก”ลุยฟ้องกลับอีกขั้วสายพุทธ อ้างทำคณะสงฆ์เสียหาย??

จากกรณีอดีตผกก.บุกศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ และนายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพระราชรัชมุนี หรือเจ้าคุณนิมิต เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง และเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ จากการตรวจสอบพฤติกรรมและหลักฐาน พบว่ามีการสวมรอยบัตรคนตาย ก่อนจะขยับฐานนะขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ และยังมีหลักฐานที่ชี้ชัดว่าพระรูปนี้ไม่ได้มีสัญชาติไทย แต่เป็นคนต่างด้าวปลอมตัวเข้ามาเป็นพระสงฆ์นั้น 

 

 

ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานและหลักฐาน เบื้องต้นยังไม่มีการออกหมายเรียกเจ้าคุณนิมิต แต่ได้ตั้งข้อหาไว้แล้ว จำนวน 3 ข้อหาแล้ว โดยพ.ต.อ.ก่ำแก้ว สุยาติ ผกก.สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ บอกเพียงว่าขณะนี้เจ้าคุณนิมิตถือเป็นผู้ถูกกล่าวหา ยังไม่ใช่ผู้ต้องหา หากทำการอออกหมายเรียกจำนวน 2 ครั้งแล้วยังไม่มา ก็จะเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย คือออกหมายจับต่อไป เพราะถือว่ามีเจตนาหลบหนีคดี ซึ่งมีกระแสข่าวว่าอาจหลบหนีไปในประเทศเมียนมา 

 

 

และเรื่องราวดังกล่าวเริ่มร้อนแรงขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อนายกรณ์ มีดี  เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า" ขอปกป้อง เจ้าคุณนิมิต (พระราชรัชมุนี) เจ้าอาวาสวัดสวนดอก เชียงใหม่ และเสนอทางออกด้านกฎหมายในการยุติปัญหาดังกล่าวกับท่านหัวหน้าคสช. ซึ่งนายกรณ์บอกว่า จากข่าวที่มีคนไปฟ้องว่า เจ้าอาวาสวัดสวนดอก สวมสิทธิ์บัตรประชาชนคนตาย ทำให้กลุ่มผู้ประสงค์จะทำลายพระพุทธศาสนา ได้ฉวยโอกาสเล่นงานไม่ยั้ง อีกทั้งสื่อบางสำนักถึงขั้นเรียกว่าเป็น“สมี” ยกว่าท่านต้องปาราชิกขาดจากความเป็นพระ บอกว่าท่านทำผิดกฎหมาย ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่า ที่ไปตีความแบบนั้น คือศาลก็ยังไม่ตัดสิน แล้วทำไมจึงทำให้ท่านเจ้าคุณเสื่อมเสีย ทั้งที่ท่านก็พระที่ดีรูปหนึ่ง ชอบช่วยเหลือคนอยู่เสมอ โดยนายกรณ์ยืนยันว่าจะขอปกป้องพระรัชมุนีต่อไป และขอเสนอให้หัวหน้าคสช. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้ม.44 นิรโทษกรรมให้กับเจ้าคุณนิมิต 

 

 

 

ต่อมาทางด้านนายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข กลุ่มชาวพุทธผู้รักพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ ผู้ที่เข้าแจ้งความร้องเรียนให้ตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดสวนดอก กรณีที่สวมบัตรประชาชนคนตายนั้น ได้ออกมาเคลื่อนไหวระบุว่า ทางกลุ่มชาวพุทธผู้รักพระพุทธศาสนามีความเป็นห่วง หากเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถนำตัวพระราชรัชมุนีมาดำเนินคดี และสอบสวนถึงผู้ที่เกี่ยวข้องที่ให้ความช่วยเหลือพระราชรัชมุนีมาสวมบัตรประชาชนคนตายได้ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และเป็นภัยต่อศาสนา จึงรวบรวมเงินเพื่อเป็นรางวัลแก่ผู้ที่ชี้เบาะแส จนนำไปสู่การจับกุมตัวพระราชรัชมุนี หรือเจ้าหน้าที่คนใดที่ดำเนินการจนจับกุมตัวพระราชรัชมุนีมาดำเนินคดีได้ จะมอบสินน้ำใจให้ 150,000 บาท เพราะถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สถาบันพระพุทธศาสนามีความใสสะอาดยิ่งขึ้น

 

 

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เป็นไงก็เป็นกัน!! แกนนำชาวพุทธเชียงใหม่ ท้าชนเครือข่ายหนุนเจ้าอาวาสฉาว ตั้งสินบน 150,000 นำจับ ยันรับไม่ได้สวมสิทธิ์คนตายครองชั้นพระราชาคณะ?

อย่างไรก็ตามในทางกลับกันแม้ว่า  หลายฝ่ายจะเห็นว่าการที่พ.ต.อ.บุญเลิศ เมตตารักษ์ อดีตผกก.สภ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข  ไปร้องทุกข์แจ้งความให้ดำเนินคดี  และตรวจสอบความถูกต้องเกี่ยวกับสถานะของเจ้าอาวาสวัดสวนดอกจะเป็นไปตามข้อกฎหมาย รวมถึงความถูกต้องชอบธรรมที่ควรจะเป็น  แต่ปรากฎว่าอีกด้านหนึ่งก็มีปฏิกริยาจากฝ่ายผู้สนับสนุน  “เจ้าคุณนิมิต” หรือพระราชรัชมุนี  ในเชิงต่อต้านในระดับสำคัญและน่าสนใจที่มาที่ไปว่ากลุ่มบคคลเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกันในลักษณะใด

 

โดยเฉพาะกับ 7 องค์กรพุทธศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่  ประกอบด้วยตัวแทนพระสงฆ์และฆราวาส  ซึ่งมีการประชุมหารือกันที่ศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่  ภายในวัดพันอ้น อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่  เน้นหนักการหารือถึงกรณีที่นายกิตติศักดิ์ร้องเรียนให้ตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดสวนดอกเรื่องการสวมสิทธิ์บัตรประชาชนคนตาย  โดยเชื่อว่าเป็นการให้ข้อมูลพาดพิงที่เป็นเท็จ  มีผลทำให้คณะสงฆ์ของจังหวัดเชียงใหม่ได้รับความเสียหาย  เพราะเป็นการให้ข้อมูลที่กระทบต่อความศรัทธาต่อพระสงฆ์ของชาวบ้านในพื้นที่  จึงมีข้อสรุปร่วมกันว่าจะออกมาใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อเอาผิดเอานายกิตติศักดิ์อย่างถึงที่สุด 

 

 

 

 

 

ภาพจากเฟซบุ๊ก : บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์ 

จากนั้นทางตัวแทน 7 องค์กรพุทธศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้แก่ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ,พุทธสมาคมจังหวัดเชียงใหม่ ,ยุวพุทธิสมาคมจังหวัดเชียงใหม่ ,กลุ่มหนุ่มสาวจังหวัดเชียงใหม่ ,สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ,สมาคมสหธรรม และสมาพันธ์ชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่ นำโดยนางพรรณี บุญประเสริฐ นายกพุทธสมาคมจังหวัดเชียงใหม่ และทนายความ เข้ายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นเรื่องแจ้งความเอาผิดกับ นายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข ในความผิดกรณีกล่าวหาว่าพระราชรัชมุนีสวมบัตรประจำตัวประชาชนคนตาย รวมถึงข้อหาหมิ่นประมาท ที่ทำให้เจ้าอาวาสวัดสวนดอกเสื่อมเสียชื่อเสียง