ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยอ้างการรายงานข่าวของ น.ส.พ.อาซาฮี ของญี่ปุ่น รายงานว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต มีแนวโน้มจะทรงประกาศสละราชสมบัติในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม 2562 นี้

 

สะพัด !!! "สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น" เตรียมสละราชบัลลังก์เดือนมีนาคม 2562

โดย น.ส.พ.อาซาฮี ได้อ้างการรายงานจากแหล่งข่าวหลายแหล่งที่ให้ข้อมูลตรงกันว่า รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างเตรียมการในขั้นตอนสุดท้ายเกี่ยวกับหมายกำหนดการพระราชพิธีต่างๆที่เกี่ยวข้อง และ เจ้าชายนารูฮิโตะ  ก็จะเสด็จขึ้นครองราชต่อจากพระราชบิดาทันที โดยคาดว่ารัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิองค์ใหม่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป

สื่อของญี่ปุ่นยังรายงานด้วยว่า การสละราชบัลลังก์ครั้งนี้ของ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต จะเป็นการสละราชบัลลังก์ครั้งแรกของราชวงศ์ญี่ปุ่นในรอบกว่า 200 ปี

 

ความเป็นไปได้ในการสละราชสมบัติ

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 สถานีกระจายเสียงแห่งชาติเอ็นเอชเค รายงานว่า สมเด็จพระจักรพรรดิเตรียมการสละราชสมบัติ เพื่อประโยชน์ต่อพระราชบุตรพระองค์โต คือ เจ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่นภายในอีกไม่กี่ปี โดยทรงอ้างถึงพระชนมายุขององค์มกุฎราชกุมาร การสละราชสมบัติในราชวงศ์ญี่ปุ่นไม่ปรากฏมานับตั้งแต่ในรัชสมัยของจักรพรรดิโคกะกุ เมื่อปี 2360 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักพระราชวังญี่ปุ่น ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวว่า ไม่มีแผนอย่างเป็นทางการใด ๆ สำหรับให้สมเด็จพระจักรพรรดิสละราชสมบัติ การสละราชสมบัติที่อาจเกิดขึ้นสำหรับสมเด็จพระจักรพรรดินั้น จะต้องมีการแก้ไขกฎราชวงศ์ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีข้อกำหนดสำหรับการกระทำนั้น เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2559 สมเด็จพระจักรพรรดิมีพระราชดำรัสสดผ่านทางโทรทัศน์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พบได้ยาก โดยตรัสย้ำถึงพระชนมายุที่มากขึ้นและพระพลานามัยที่โทรมลง การที่มีพระราชดำรัสผ่านโทรทัศน์ครั้งนี้จึงตีความกันว่า พระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะสละราชสมบัติ ตามข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการแทรกแซงกฎราชวงศ์และกฎการสืบราชสันตติวงศ์ จึงมีการพิจารณายกเว้นเป็นกรณีพิเศษครั้งเดียว ซึ่งเปิดทางให้พระองค์สละราชสมบัติได้ ซึ่งคาดว่าจะทรงสละราชสมบัติในวันที่ 31 ธันวาคม 2561

ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560 หนังสือพิมพ์ ไมนิชิชิมบุง ได้เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังรายหนึ่งว่าเมื่อจักรพรรดิอะกิฮิโตะสละราชบัลลังก์ให้แก่ เจ้าชายนะรุฮิโตะ แล้วจะเสด็จย้ายไปประทับที่ พระตำหนักอะกะซะกะ อันเป็นที่ประทับของ เจ้าอะกิชิโนะ ส่วนเจ้าอะกิชิโนะและพระสันตติวงศ์จะย้ายไปประทับที่ พระตำหนักโทงู แทน

วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 รัฐบาลญี่ปุ่นได้เสนอร่างกฎหมายสละราชบัลลังก์ซึ่งมีผลเฉพาะสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะเท่านั้นต่อสภาผู้แทนราษฎรซึ่งสภาผู้แทนราษฎรก็ได้ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้และได้มีการนำเสนอเข้าที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2560 และที่ประชุมวุฒิสภาก็ได้ผ่านกฎหมายฉบับนี้ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 – เดือนมกราคม พ.ศ. 2562 อันตรงกับช่วงครบรอบการครองราชบัลลังก์ปีที่ 30 ขององค์จักรพรรดิ

ซึ่งทางรัฐบาลก็ต้องนำกฎหมายฉบับนี้กลับไปกำหนดวันสละราชบัลลังก์ของจักรพรรดิและวันประกอบพิธีราชาภิเษกของจักรพรรดิองค์ใหม่ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าให้องค์จักรพรรดิลงพระปรมาภิไธยโดยผลของกฎหมายฉบับนี้คือเมื่อสมเด็จจักรพรรดิอะกิฮิโตะสละราชบัลลังก์แล้วพระองค์จะได้รับพระยศเป็น โจโค หรือ ไดโจเท็นโน อันมีความหมายว่าจักรพรรดิที่สละราชบัลลังก์แล้วพร้อมกับพระนามอย่างเป็นทางการของพระองค์ที่จะเปลี่ยนเป็น จักรพรรดิเฮเซ

ขณะที่เจ้าชายนะรุฮิโตะพระราชโอรสองค์ใหญ่ที่มกุฎราชกุมารก็จะขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อในทันทีพร้อมกับพระนามของพระองค์ที่จะเปลี่ยนเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินะรุฮิโตะ พร้อมกันนั้นทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็จะได้ถวายนามรัชศกใหม่เพื่อใช้แทนรัชศก เฮเซ ที่จะสิ้นสุดลงไปในวันเดียวกันนอกจากนี้ลำดับสิทธิ์ในการสืบราชสันตติวงศ์ของญี่ปุ่นก็จะมีการเปลี่ยนแปลงคือ เจ้าชายฟุมิฮิโตะ เจ้าอะกิชิโนะ พระอนุชาก็จะขยับขึ้นเป็นรัชทายาทลำดับที่ 1 ขณะที่ เจ้าชายฮิซะฮิโตะแห่งอะกิชิโนะ พระนัดดาจะขยับขึ้นเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 และ เจ้าชายมะซะฮิโตะ เจ้าฮิตะชิ พระปิตุลา (อา) จะขยับขึ้นเป็นรัชทายาทลำดับที่ 3