- 21 ต.ค. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th
การเสด็จสู่สวรรคาลัยของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่สร้างความเศร้าเสียใจให้คนไทยทั้งแผ่นดิน แม้พ่อจะจากไปแล้ว 1 ปี แต่เรื่องราวความทรงจำของพ่อยังคงอยู่ โดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ที่รักและเทิดทูนพระองค์ท่านยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดบนโลกใบนี้...
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2560 ภายในรายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV นางอนงค์ ธารีสืบ อายุ 82 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เล่าให้ฟังว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 12 ปีก่อนตนเคยมีบ้านเป็นของตัวเอง อาศัยอยู่กับลูก และหลานชาย รวม 6 คน แต่ถูกเจ้าหนี้ยึดบ้านไป ลูก ๆ จึงต้องแยกย้ายหาที่อยู่ใหม่ แต่ตนห่วงบ้านเลยไม่ได้ไปไหน ตอนนั้นบ้านถูกรื้อเหลือแค่เศษไม้ ต้องอาศัยชายคาเพื่อนบ้านเป็นที่หลบแดด หลบฝน โดยอาศัยอยู่กับหลานชายคือ ด.ช.เมธาพร จุมพิศ ซึ่งกำพร้าทั้งพ่อแม่ และยังป่วยพิการทางสมอง
ชีวิตในช่วงนั้นต้องอดมื้อกินมื้อ ลำบากมาก มีรายได้เพียง เดือนละ 1,700 บาท ที่เป็นเงินบำนาญตกทอดของหลาน ได้รับหลังจากพ่อที่เป็นตำรวจเสียชีวิต ต่อมาก็ได้ปลูกกระต๊อบอยู่ในที่ดินของกรมชลประทาน แต่ก็ถูกเวนคืนที่ดิน เดือนร้อนอีกไม่มีที่อยู่อาศัย ก็คิดถึงคนคนหนึ่ง ที่จะเป็นเพียงคนเดียวที่จะสามารถช่วยเหลือตนได้ นั่นคือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงตัดสินใจนั่งรถไฟเข้ากรุงเทพฯ กับหลานชาย เพื่อขอพระราชทานความช่วยเหลือ
นางอนงค์ เล่าด้วยว่า พอเดินทางมาถึงสำนักราชเลขาธิการ เจ้าหน้าที่ 3 คน ก็เข้ามาสอบถามถึงความเดือดร้อน ตนจึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง แล้วเจ้าหน้าที่ก็ให้หลานเป็นคนเขียนจดหมายเพราะตนเขียนหนังสือไม่ได้ แม้ว่าหลานจะพิการทางสมองแต่ก็ยังพอเขียนได้ เมื่อเขียนเสร็จก็กลับบ้าน
จากนั้นไม่นานได้มีจดหมายตอบกลับจากสำนักราชเลขาธิการว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีรับสั่งผ่านราชเลขาธิการ ให้ประสานหน่วยงานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วยเหลือตนโดยด่วน ตนตกใจและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่คิดว่าจะได้รับพระราชทานความช่วยเหลือรวดเร็วเพียงนี้
หลังจากนั้น ก็เหมือนได้ชีวิตใหม่ มีกำลังที่จะสู้ชีวิตต่อ เพราะทางเทศบาลได้หาที่ดินเนื้อที่ 25 ตารางวา สร้างบ้านเดี่ยวให้ พร้อมออกทะเบียนบ้าน โดยมีชื่อของหลานชายเป็นเจ้าของบ้าน นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังมีพระกระแสรับสั่งให้ทางจังหวัด จัดหาทุนการศึกษาให้แก่หลานชายตน หลานชายจึงมีโอกาสได้ศึกษาต่อ แต่เรียนได้เพียง 2-3 ปี ก็ไม่สามารถเรียนต่อได้ เนื่องจากอาการป่วยพิการทางสมองรุนแรงขึ้น
ขอบคุณ รายการทุบโต๊ะข่าว อัมรินทร์ทีวี HD34
