- 22 ต.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด : http://www.tnews.co.th
หลังจากเมื่อช่วงเช้า (22 ต.ค.) ที่ผ่านมา บริเวณท้องสนามหลวง พระบรมมหาราชวัง ได้มีการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสสริยยศพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะถึงพิธีจริงในวันที่ 26 ต.ค.2560 ซึ่งการซ้อมในครั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งมายังพระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนที่ 4 เชิญพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานและเชิญพระบรมราชสรีรางคารโดยพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย จากพระเมรุมาศเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง ท่ามกลางประชาชนชาวไทยที่เดินทางมาร่วมชมพิธีอย่างเนืองแน่น
โดยในวันนี้ประชาชนต่างเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อเข้าร่วมชมการซ้อมริ้วขบวน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่ทุกคนก็มีใจมุ่งมั่น หวังได้ชมริ้วขบวนที่ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติเพื่อร่วมส่งเสด็จในหลวงร.9
ซึ่งล่าสุดทางด้านหลวงปู่พระพุทธอิสระ ที่ได้ร่วมเป็นตัวแทนพระจิตอาสา ก็ได้โพสต์ความในการรวมทำหน้าที่ดูแลประชาชน ผ่านเฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ระบุว่า "นักบริหารที่ดี ต้องบริหารเวลาให้คุ้มค่าทุกวินาที 22 ตุลาคม 2560 ไม่คิดว่า การบริหารจิตอาสาที่เต็นท์หมายเลข 9 มันจะเหนื่อยหนักขนาดนี้ ด้วยหลักคิดที่ว่า แขกของพ่อทุกคนต้องมีข้าวมีน้ำกินอย่างไม่อดไม่อยาก แต่ก็มิใช่เหลือเฟือ ฟุ่มเฟือย จนทิ้งขว้าง และด้วยหลักคิดนี้แหละ จึงนำมาซึ่งการที่จะต้องบริหารวัตถุดิบในการประกอบอาหารให้คุ้มค่า เหมาะสม บริหารกระบวนการจัดเก็บวัตถุดิบ ทั้งสด ทั้งแห้ง ซึ่งปวดหัวมาก บริหารเมนูอาหารให้ตรงต่อวัตถุดิบที่มีอยู่อย่างมีคุณค่า บริหารการผลิตให้สด สะอาด มีคุณค่า รสชาติดี บริหารหลังงานให้พร้อมใช้อย่างไม่ขาดแคลนและเหมาะกับเมนูอาหารในแต่ละชนิด เพราะอาหารในแต่ละชนิดย่อมใช้พลังงานความร้อนไม่เท่ากัน
บริหารกระบวนการบรรจุ และอาหารที่จักบรรจุ บริหารอุปกรณ์และภาชนะในการบรรจุ บริหารเงินที่เป็นต้นเรื่องของวัตถุดิบให้เพียงพ่อต่อการใช้จ่าย บริหารคนที่เป็นจิตอาสา ซึ่งมาจากหลายที่ หลายสังคม หลายความรู้ หลายนิสัย หลายอารมณ์ และด้วยความหลากหลายของคนที่มาเป็นจิตอาสานี่แหละ จึงทำให้ยากต่อการที่จะบริหารพฤติกรรม กิจกรรม ให้เหมาะสมต่อภารกิจปรุงอาหารพระราชทานให้ทันต่อความต้องการของแขกของพ่อ ซึ่งมีข้อกำจัดอยู่ที่เวลาและจำนวนคน เมื่อมีเวลาจำกัด มีคนหลากหลาย ผู้บริหารจึงจำเป็นต้องใช้สารพัดวิธีเพื่อให้งานทุกชนิดออกมาดี มีผลอันเลิศ
โดยเงื่อนไขดังกล่าวท่านทั้งหลายจึงได้เห็นพุทธะอิสระเล่นสารพัดบท เพื่อเป็นแรงผลักแรงดัน หรือบางครั้งก็เป็นแรงถีบ บางทีคนถีบก็หมดแรงเหมือนกัน
ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลาที่บริหารเวทีแจ้งวัฒนะและมวลชน พุทธะอิสระยังไม่ปวดหัวขนาดนี้เลย นี่คงเป็นเพราะงานของพ่อผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ที่เรามิกล้าจะใช้แต่พระเดช ความเด็ดขาด ด้วยเพราะนึกถึงภาพของพ่อที่ทรงตรากตรำ กรำแดดกรำฝน อาบเหงื่อต่างน้ำ เพื่อลูกไทยของพระองค์ จึงทำให้พุทธะอิสระมีแรงฮึดสู้ต่อทุกปัญหา ลุกขึ้น ทั้งถีบ ทั้งยืน เพื่อให้แขกของพ่อได้มีข้าวกิน และไม่อยากทำให้จิตอาสาลูกไทยของพ่อทุกคนเสียใจ
เอาเป็นว่างานนี้เราคงต้องพยายามบริหารอารมณ์ตนเองมิให้เป็นมลภาวะแก่ลูกของพ่อมากจนเกินไปนัก เพื่อให้งานของพ่อออกมาเรียบร้อยสมบูรณ์ที่สุด
พุทธะอิสระ"
ซึ่งต่อมาก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น อนุโมทนาบุญกับหลวงปู่ที่ช่วยดูแลประชาชนในวันนี้ ร่วมแรงร่วมใจกันทำหน้าที่เพื่อถวายงานแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นครั้งสุดท้าย รวมไปถึงชื่นชมและขอบคุณจิตอาสาทุกท่าน ที่มาปรุงอาหารแจกจ่ายประชาชนในงานอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า คนไทยเรามียามมีทุกข์ ก็พร้อมสู้ไปด้วยกัน เมื่อยามมีสุขก็ย่อมแบ่งกัน และยามที่โศกเศร้าราวหัวใจจะสลาย เราก็ต่างช่วยกันทำความดี เพื่อพระองค์ท่านอย่างสุดกำลังและความสามารถ
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)