เลี่ยงด่วน !!! วิธีการผัดสุดอันตราย! โดยที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่า เสี่ยงเป็นมะเร็งสูงมาก !!!

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

ในการทำอาหารหรือกับข้าวแต่ละอย่าง อาจเสี่ยงต่อการเกิด “มะเร็ง” โดยที่คุณไม่รู้ตัวมาก่อนเลยก็ได้ อย่างเช่น วิธีการ “ผัดผัก” ต่อไปนี้ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่าเสี่ยงเป็น “มะเร็ง” สูงมาก

 

เลี่ยงด่วน !!! วิธีการผัดสุดอันตราย! โดยที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่า เสี่ยงเป็นมะเร็งสูงมาก !!!

 

1. ล้างผักหลังจากหั่นเสร็จแล้ว ผักที่หั่นแล้วเวลานำไปล้างบนพื้นผิวที่สัมผัสกับน้ำจะมีมากกว่าตอนที่ยังไม่ได้หั่นทำให้แร่ธาตุบางชนิด วิตามินบีและซีบางส่วนละลายไปกับน้ำ วิธีการทำที่ถูกต้องคือควรจะค่อยๆ ล้างผักให้สะอาดและสะเด็ดน้ำให้แห้งก่อนนำไปหั่น และที่สำคัญก็คือผักที่หั่นเสร็จแล้วควรจะนำไปประกอบอาหารในทันทีหรือไม่ควรทิ้งไว้นานกว่า 2 ชม. ไม่อย่างนั้นจะทำให้สารอาหารที่อยู่ในผักสูญเสียไปเพราะออซิเดชันกับอากาศ

2. รอมีควันขึ้นค่อยใส่ผัก การรอให้น้ำมันร้อนจนควันขึ้นมาแล้วค่อยใส่ผักลงไปผัดนั้น หมายถึงการนำผักลงไปผัดในอุณหภูมิที่มีน้ำมันสูงกว่า 200 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้สูญเสียสารอาหารและจำนวนแร่ธาตุในผักแถมยังทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง วิธีการที่ถูกต้องควรจะใส่วัตถุดิบทุกอย่างลงไปก่อนที่น้ำมันจะมีควันขึ้นมา

 

เลี่ยงด่วน !!! วิธีการผัดสุดอันตราย! โดยที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่า เสี่ยงเป็นมะเร็งสูงมาก !!!

 

3. ใส่น้ำมันเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันประเภทไหนก็ตามจะมีปริมาณไขมันมากกว่า 98% ความสามารถในการดูดซับน้ำมันของผักนั้นสูงกว่าเนื้อสัตว์มาก ถ้าหากเราใส่น้ำมันมากเกินไปเวลาผัดผักก็จะทำให้พื้นผิวของผักนั้นเคลือบเต็มไปด้วยน้ำมัน รสชาติของเครื่องปรุงที่ใส่ลงไปนั้นจะไม่เข้าไปในผักแถมยังทำให้ร่างกายของเราดูดซึมแร่ธาตุและสารอาหารจากผักได้น้อยลงมาก วิธีที่เหมาะสมคือเวลาผัดผักไม่ควรใส่น้ำมันเกินกว่า 1 ช้อนโต๊ะ

4. ใส่เครื่องปรุงที่มีส่วนประกอบของเกลือเยอะมากเกินไป ในซีอิ้วมีส่วนประกอบของเกลือ 15-20 % ในผงปรุงรสจะมีส่วนประกอบของเกลือ 10 % ถ้าหากใส่เครื่องปรุงเหล่านี้แล้วก็ไม่ควรใส่เกลือหรือน้ำปลามากจนเกินไป เพราะมันจะทำให้ปริมาณโซเดียมในอาหารสูงมากเกินไป

 

เลี่ยงด่วน !!! วิธีการผัดสุดอันตราย! โดยที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่า เสี่ยงเป็นมะเร็งสูงมาก !!!

 

วิธีผัดผักนี้ทำให้สารอาหารในผักสูญเสียไป และถ้าหากเราทำเป็นประจำอาจจะทำให้มีผลเสียต่อสุขภาพของคุณอีกด้วย อย่าลืมส่งให้คนที่บ้านอ่านกันด้วยนะจ๊ะ

ขอบคุณข้อมูล : share-si , samunpraibann