- 24 ต.ค. 2560
FB : DEEPS NEWS
จากกรณีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งพระนามเดิมว่า เจริญ คชวัตร ฉายา สุวฑฺฒโน (3 ตุลาคม พ.ศ. 2456 – 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556) เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2532 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถือเป็นสมเด็จพระสังฆราชที่มีพระชันษามากกว่าสมเด็จพระสังฆราชทุกพระองค์ในอดีตและเป็นพระองค์แรกของไทยที่มีพระชันษา 100 ปี สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เนื่องจากติดเชื้อในกระแสพระโลหิต
ทั้งนี้มีเรื่องราวที่บอกเล่าสายสัมพันธ์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก กับ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยซึ่งสมเด็จพระเทพฯ ทรงเรียก เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ว่า “หลวงปู่”
..อันแสดงถึงความเคารพนับถือ และความสนิทใกล้ชิดที่ทรงมีต่อเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทั้งทรงห่วงใย พระพลานามัยของ “หลวงปู่” ดังจะเห็นได้ว่า บางครั้งมีผู้มาเข้าเฝ้า จำนวนมากจนทำให้เลยเวลาเสวย จึงทรงมีลายพระหัตถ์เขียนป้าย บอกให้ผู้เข้าเฝ้ารอก่อนเมื่อถึงเวลาเสวย ป้ายนี้ปรากฏลายพระหัตถ์ว่า “เมื่อถวายภัตตาหารแล้ว ขอเชิญท่าน สาธุชนทั้งหลายคอยข้างล่างจนฉันเสร็จ ระหว่าง 8.00 น. - 9.30 น. (พระหัตถเลขา) สิรินธร”
สำหรับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงแสดงพระองค์เสมือนเป็น ศิษย์พระองค์หนึ่งของ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เช่น เสด็จฯ มาทรงถวายสักการะและถวายภัตตาหารแด่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ในวันคล้ายวันประสูติ 3 ตุลาคม มิได้ขาด พร้อมทั้งทรงปล่อยนกปล่อยปลาที่ คูหลังตำหนักคอยท่า ปราโมช บ่อยครั้ง บางครั้งก็เสด็จฯ มาทรงสนทนาธรรม เป็นการส่วนพระองค์ ณ ตำหนักคอยท่า ปราโมช
เมื่อครั้งทรงศึกษา ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก็ได้ทรง ปรึกษาเรียนรู้ในทางวิชาการกับเจ้าพระคุณสมเด็จฯ อยู่เสมอ ดังที่ได้ทรงไว้ในกิตติกรรมประกาศ ในวิทยานิพนธ์เรื่อง ทศบารมีในพุทธศาสนาเถรวาท อันเป็นพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า ".... ขอกราบนมัสการ สมเด็จพระญาณสังวร ซึ่งได้กรุณาชี้แจงและท้วงติงข้อผิดพลาดบางส่วนในวิทยานิพนธ์นี้..." และในพระราชนิพนธ์คำนำ ในการพิมพ์วิทยานิพนธ์ พระราชนิพนธ์เรื่อง ทศบารมีในพุทธศาสนาเถรวาทเผยแพร่โดยมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.2524
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย สักการะพระศพ จากนั้น ทรงจุดธูปเทียน นมัสการ บูชาพระรัตนตรัย ก่อนจะทรงประเคนภัตตาหารแก่พระสงฆ์ จำนวน 8 รูป ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ร่วมการสวดพระอภิธรรมพระศพของเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา 4 รูป และพระสงฆ์ที่สวดพระอภิธรรม ในวันนี้ 4 รูป ตามพระพิธีธรรมรับพระราชทานฉันเช้า เมื่อพระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ก่อนจะทรงจุดธูปเทียนที่เตียงพระสวดพระอภิธรรมพระศพ พระสงฆ์จาก วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร 4 รูป เริ่มสวดพระอภิธรรมด้วยทำนองหลวงที่ใช้ในการพระราชพิธี
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2553 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ทรงเยี่ยม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ยังคงประทับรักษาพระองค์อยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และมารับสั่งให้แพทย์ย้ายสมเด็จพระสังฆราช ไปประทับที่ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อความปลอดภัย
โดย ศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ เปิดเผยว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ และให้ติดตามอาการของผู้ป่วยที่ย้ายออกจากโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้รับสั่งให้ทูลเชิญสมเด็จพระสังฆราช ไปประทับรักษา โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งคณะสงฆ์เห็นด้วย เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงมีรับสั่งให้กำลังใจผู้บริหารและบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน
ขอบคุณ : มูลนิธิ ๑๐๐ พระชันษา สมเด็จพระญาณสังวรานุสรณ์ ในพระสังฆราชูปถัมภ์
ที่มา: หนังสือบวรธรรมบพิตร