เชื่อว่าตอนเด็กๆ หลายคนคงเคยเป็น !! เวลาฉี่รดที่นอนแล้ว ตื่นมาจะอาย ไม่กล้าบอกใคร จนเกิดอาการเก็บกด และจะแก้ไขอย่างไร

เชื่อว่าตอนเด็กๆ หลายคนคงเคยเป็น !! เวลาฉี่รดที่นอนแล้ว ตื่นมาจะอาย ไม่กล้าบอกใคร จนเกิดอาการเก็บกด และจะแก้ไขอย่างไร

 

เชื่อว่า พ่อแม่บางคนต้องสงสัย ทำไมลูกถึงมีอาการฉี่รดที่นอน ทั้งๆ ที่ก่อนนอน ก็พาเขาเข้าห้องน้ำแล้ว  แต่ก็ยังมีกรณีที่ทำที่นอนเปียกเลอะเป็นประจำ  ข้อมูลจาก American Academy 0f Pediatrics เผยว่า เด็กๆ ราว 5 ล้านคนในสหรัฐฯ ยังคงฉี่รดที่นอน ซึ่งร้อยละ 20 เป็นเด็กวัย 5 ขวบ   ร้อยละ 10 เป็นเด็กวัย 7 ขวบ  และร้อยละ 5 เป็นเด็กวัย 10 ขวบ  แม้ว่าการฉี่รดที่นอนจะดูเป็นเรื่องน่าอายที่เด็กมักถูกปลูกฝังมา จึงทำให้เด็กไม่กล้าบอกคุณพ่อคุณแม่เวลาปวดขึ้นมา และเมื่อฉี่รดที่นอนแล้วก็ไม่กล้าบอกกลัวถูกตำหนิ  ซึ่งเกิดเป็นอาการเก็บกด เขินอายอย่างหนึ่ง  แต่หากเด็กที่เติบโตมาในความเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กที่จะมีเหตุฉี่รดที่นอนเกิดขึ้นบ้าง  เพียงแค่นำผ้าปูที่นอนไปตากซัก  เด็กก็จะไม่รู้สึกผิด  ไม่รู้สึกเครียด  ไม่รู้สึกกังวล  และเมื่อเขาเติบโตเข้าใจเหตุผลแล้วก็อธิบายว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้และให้ลูกช่วยเก็บทำความสะอาด  ถือเป็นการสอนเรื่องวินัยเชิงบวก

 

เชื่อว่าตอนเด็กๆ หลายคนคงเคยเป็น !! เวลาฉี่รดที่นอนแล้ว ตื่นมาจะอาย ไม่กล้าบอกใคร จนเกิดอาการเก็บกด และจะแก้ไขอย่างไร

การดื่มน้ำที่น้อยเกินไป ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ  เพราะขณะนอนหลับร่างกายต้องใช้น้ำมาช่วยปรับสมดุลร่างกาย  และหากไม่ได้ดื่มน้ำก่อนนอนสักนิดหน่อย เมื่อร่างกายโหยหาน้ำก็จะทำให้เสียสมดุล กระตุ้นให้ปวดปัสสาวะ การฉี่รดที่นอนไม่ใช่เรื่องผิดปกติสำหรับเด็ก  เด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบส่วนใหญ่มักเคยฉี่รดที่นอนทั้งนั้น แต่ถ้าโตแล้วยังเป็นอยู่การปรึกษาแพทย์น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด 

 

เชื่อว่าตอนเด็กๆ หลายคนคงเคยเป็น !! เวลาฉี่รดที่นอนแล้ว ตื่นมาจะอาย ไม่กล้าบอกใคร จนเกิดอาการเก็บกด และจะแก้ไขอย่างไร