- 28 ต.ค. 2560
FB : DEEPS NEWS
จากกรณีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ถือเป็นพระราชพิธีที่รัฐบาล ประชาชน และเอกชน รวมใจแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม พุทธศักราช 2560 ซึ่งโดยเฉพาะวันที่ 26 ตุลาคม พุทธศักราช 2560 ประชาชน ภายใต้การนำของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้ใช้เวลาในการเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2559
ทั้งนี้เริ่มจากปรับพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวงให้รองรับการจัดพระราชพิธี จนกระทั่งถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินในการ พระราชพิธีทรงยกนพปฎลมหาเศวตฉัตรประดับยอดพระเมรุมาศ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เป็นอันเสร็จสิ้นการเตรียมการพระราชพิธีอย่างสมบูรณ์ เป็นที่จดจำจารึกไว้ว่าวันที่ 26 ตุลาคม น้ำตาปวงประชาเนืองนองทั้งแผ่นดิน และนับจากนี้ก็จะมีการออกทุกข์ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 29 ตุลาคม เช้าวันที่30ตุลาคม กระนั้นสิ่งที่คนไทยทั้งหลายจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรคงไม่ใช่สิ่งสำคัญ หากได้ย้อนไปฟังคำสอนขององค์พ่อหลวง ที่พระองค์เคยพระเมตตาสอนไว้ในสถานที่ หลายโอกาสตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลาย10ปี ซึ่งจะขอนำบางคำสอนเหล่านั้นมาบอกเล่ากับคนไทยได้เรียนรู้ยึดถือเป็นแนวทางต่อไป ดังนี้
" .....พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสอนลูกๆ ทุกคน สอนข้าพเจ้าก่อนแล้วสอนลูกๆ ว่า เมื่อคนเขายกย่องนับถือให้เป็นประมุขเท่าไร เราต้องทำงานหนักกว่าทุกคน ต้องมีความรับผิดชอบ ต้องมีความเสียสละ
ตัวเรานี้ไม่ยั่งยืน แต่ว่าประเทศหรือว่างานต่อไปนี้จะต้องอยู่ต่อไป เพราะฉะนั้น เรานี่จะทำอะไรควรทำเพื่อตัวเองพอประมาณ และทำเพื่อคนอื่นด้วย ให้สมกับที่บรรพบุรุษเราทำกันมา ..... "
พระราชดำรัสและพระบรมราโชวาท ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดุสิต
๑๒ สิงหาคม ๒๕๒๕