ให้มันรู้..เราคนไทย!!! "หนุ่มไทย" สวนกลับเจ็บภาษาอังกฤษใส่ "ฝรั่ง" หลังวิจารณ์งานพระราชพิธี ถวายพระเพลิงฯ

งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา นับว่าเป็นพระราชพิธีที่สมพระเกียรติสูงสุดของพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักของพสกนิกรไทย และเป็นพระราชพิธีที่ถูกเผยแพร่สู่สายตาของคนทั่วโลก

แต่ล่าสุด (27 ตุลาคม 2560) ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก Tanases Samutpetch ได้มีการเปิดเผยเรื่องของของหนุ่มชาวไทยรายหนึ่งที่ได้ทำหน้าที่แทนคนไทย ตอบกลับสาวต่างชาติ หลังจากที่เธอเข้ามาคอมเมนต์วิจารณ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ การใช้จ่ายเงินในงานพระราชพิธีนั้น ค่อนข้างเยอะฟุ่มเฟือย ไม่สมเหตุสมผล จากนั้นหนุ่มไทย จึงเข้าไปตอบว่า "เพราะวัฒนธรรมนั้น ทำให้เราแตกต่างจากสัตว์ คุณบอกว่าคุณเรียนที่มหาวิทยาลัยบอสตัน แต่นั่นไม่ทำให้คุณเก่งขึ้นเลยหรือ"

 

 

จากนั้น สาวฝรั่งคนดังกล่าว จึงเข้ามาบอกว่า "คุณไม่คิดว่ากษัตริย์ของคุณ อยากจะนำเงินจำนวนมากนี้ที่ใช้ในงานพระราชพิธี ไปใช้ในการช่วยเหลือคนจนเลยหรือ"

โดยหนุ่มรายนี้ ตอบว่า..มันต่างกัน เพราะเงิน 90 ล้าน จะใช้เลี้ยงได้สักกี่คนใน 1 ปี แล้วหลังจากนั้นก็คงอดอยากกันอีก แต่โครงการงานของพระองค์ทรงเหนือกว่าการให้เงินนั้นเสียอีก คือการสอนให้ประชาชนรู้จักหาเงินและช่วยเหลือตนเองได้ กว่า 4,000 โครงการในพระราชดำริ ของพระองค์ท่านยังคงอยู่และยังสืบเนื่องต่อไป โครงการเหล่านั้นช่วยให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น ช่วยให้เขายืนอยู่ได้ด้วยลำแข้งตนเอง

 

ถ้าเป็นคุณ คุณจะจ่ายเงินเท่าไหร่เพื่อแสดงออกถึงความรัก ความเทิดทูนแด่พระองค์ซึ่งเป็นที่รักเป็นครั้งสุดท้าย เงิน 90 ล้าน มันเทียบไม่ได้เลยกับเงินที่กองทัพอเมริกาใช้ทำลายเวียดนาม อิรัก ซีเรีย และอีกหลายประเทศ ผมเข้าใจนะว่าอเมริกาคงไม่แคร์พ่อแม่คุณสักเท่าไร

แต่ที่นี่ประเทศไทย พวกเรารักพ่อแม่ของเรา และยินดีจะทำสิ่งนี้เพื่อท่าน ขนบธรรมเนียมประเพณีมันสืบทอดกันมาตามกาลเวลา พวกเราคือประเทศที่มีวัฒนธรรมกว่า 800 ปี และนี่คือสิ่งที่พวกเราภูมิใจ ซึ่งคุณคงไม่เข้าใจ

นอกจากนี้ ยังมีหนุ่มไทยคนหนึ่งเข้าไปเสริมว่า "อย่าลืมว่าคนอเมริกาเองก็ใช้จ่ายเงินจำนวนมากในการทำสงครามในต่างหลาย ๆ ประเทศ ทำไมไม่ใช้เงินจำนวนนั้นในการช่วยเหลือคนจนในประเทศของคุณล่ะ ?"

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ภายหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ ทำให้มีชาวเน็ตโดยเฉพาะคนไทยได้เข้ามาวิพากย์วิจารณ์ข้อความดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก 

 

 

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Tanases Samutpetch , Kapook.com