- 29 ต.ค. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มเติม Facebook : Deeps News
หลังจากการถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และได้มีการบรรจุพระโกศพระบรมอัฐิเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มาประดิษฐานที่บุษบกแว่นฟ้าทอง ส่วนพระบรมราชสรีรางคาร ได้มีการอัญเชิญพักไว้ที่พระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
โดยในวันนี้ (29 ตุลาคม 2560) ได้มีการอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมของราชวงศ์จักรี ที่ใช้สถานที่แห่งนี้ประดิษฐานพระบรมอัฐิ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 8
โดยภายหลังเสร็จพระราชพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ กลับ จากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เตรียมเสด็จฯ กลับ โดยก่อนทรงพระดำเนินขึ้นรถพระที่นั่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงคม (ไหว้) ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่ประทับยืนส่งเสด็จ โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงโอบกอดสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทรงโบกพระหัตถ์ลา
ทั้งนี้ส่วนพระบรมราชสรีรางคารของในหลวง รัชกาลที่ 9 จะมีการอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหาร โดยวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จะเป็นที่บรรจุผอบพระบรมราชสรีรางคารของในหลวง รัชกาลที่ 9 ไว้ที่บริเวณฐานพระพุทธอังคีรส ซึ่งเป็นพระประธานในพระอุโบสถ ส่วนผอบพระบรมราชสรีรางคารอีกหนึ่งส่วนจะอัญเชิญมาประดิษฐานที่ฐานพระพุทธชินสีห์ พระประธานในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ปรากฏหลักฐานสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย
สำหรับการบรรจุพระบรมราชสรีรางคารถือเป็นขั้นตอนสุดท้าย ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ ซึ่งการอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร ไปประดิษฐานในสุสานหลวงหรือสถานที่อันควรแทนนั้น เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่ได้ยกเลิกธรรมเนียมการลอยพระบรมราชสรีรางคาร โดยเจ้าพนักงานจะอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารจากสถานที่ที่พักไว้แล้ว ตั้งขบวนพระบรมราชอิสริยยศไปยังสถานที่บรรจุที่เหมาะสม อย่างเช่นในพระราชพิธีในครั้งนี้ จะอัญเชิญไปบรรจุที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหาร สถานที่ประทับขณะในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงผนวช
ขอบคุณ ThaiPBS