๒ พฤศจิกายน ครบรอบชาตกาล ๑๑๒ ปี "หลวงพ่อกวย ชุตินธโร" พระเกจิเรื่องวิชาเมืองชัยนาท ที่แม้แต่โจรเสือก็ไม่กล้าคิดมาลองดี !!

หลวงพ่อกวย ชุตินธโร พระเกจิเรื่องวิชาเมืองชัยนาท ๒ พฤศจิกายน ครบรอบชาตกาล ๑๑๒ ปี

หลวงพ่อกวย ชุตินธโร

            ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ น้อมรำลึก ๑๑๒ ปี ชาตกาลหลวงพ่อกวย ชุตินธโร อดีตเจ้าอาวาสวัดโฆสิตาราม (วัดบ้านแค) ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เป็นพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมรุ่นเก่าอีกรูปหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วภาคกลาง หลวงพ่อกวย มรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๒๒ สิริอายุ ๗๔ ปี ๕๔ พรรษา  ปัจจุบัน ทางวัดโฆสิตาราม เเละบรรดาศิษย์หลวงพ่อกวย ได้ยึดถือเอาวันที่ ๑๒ เมษายนของทุกปี เป็นวันทำบุญประจำปี เพื่ออุทิศและรำลึกถึงหลวงพ่อกวย

ภาพของหลวงพ่อกวย

            ชาติภูมิ หลวงพ่อกวย เดิมชื่อ กวย ปั้นสน เกิดเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๔๔๘ ณ หมู่บ้าน บ้านแค หมู่ ๙ ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายตุ้ย และนางต่วน เดชมา ท่านเป็นบุตรคนสุดท้องของบิดามารดา 
 

           ในช่วงวัยเยาว์มารดาได้นำมาฝากไว้กับหลวงปู่ขวด ณ วัดบ้านแค เพื่อให้เรียนหนังสือ ครั้นเมื่อครบอายุบวช ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๖๗ ณ วัดโบสถ์ ต.โพธิ์งาม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท โดยมี พระชัยนาทมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อปา วัดโบสถ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เเละ พระอาจารย์หริ่ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ชุตินธโร
 

หลวงพ่อกวย

           เมื่ออุปสมบทได้มาอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านแค ตอนนั้นหลวงปู่มา เป็นเจ้าอาวาสอยู่ พระกวยหัดเทศน์เวสสันดรชาดก หลังจากนั้นได้ไปเรียนวิชาแพทย์โบราณกับหมอเขียน เพื่อเรียนวิชารักษาโรคระบาด หรือโรคห่าเเละโรคไข้ทรพิษ 

พ.ศ.๒๔๗๒ ได้เดินทางไปเรียนวิชาวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคม ตลอดจนวิธีทำเครื่องรางของขลังกับ หลวงพ่อศรี วิริยโสภิต แห่งวัดพระปรางค์ จ.สิงห์บุรี

พ.ศ.๒๔๗๗ ท่านได้มาจำพรรษาที่วัดหนองแขม ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เพื่อเรียนแพทย์แผนโบราณต่อกับโยมป่วน บ้านหนองแขม และเรียนแพทย์แผนโบราณต่อกับหมอใย บ้านบางน้ำพระ 
 

 

หลวงพ่อกวย ชุตินธโร นั่งสมาธิ

          ในขณะที่พักจำพรรษาที่วัดหนองแขม ได้มีพระภิกษุชื่อ แจ่ม เดินทางท่องเที่ยว ไปพบตำราเป็นสมุดข่อยอยู่ในโพรงไม้ แต่เอามาไม่ได้ เพราะตำรานั้นมีอาถรรพ์แรงมาก จึงได้มาชักชวนหลวงพ่อกวยให้ไปดู ปรากฏว่ามีตำราอยู่โพรงไม้จริง มีรอยคนเอาพวงมาลัยดอกไม้ ธูปเทียนมาบูชาใต้โคนไม้ พระภิกษุกวยจึงได้จุดธูปบอกเล่าและอธิษฐานว่า "ถ้าหากว่าท่านจะให้ตำรานี้ให้ข้าพเจ้าเอาไปเก็บรักษาไว้ ข้าพเจ้าจะนำเอาตำรานี้ไปทำประโยชน์แก่วัดและช่วยเหลือประชาชนเท่านั้น" ก่อนอัญเชิญตำรานั้นมาเก็บไว้ 

          ครั้งหนึ่ง ท่านได้ไปจำพรรษาที่วัดบางตาหงาย อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ได้มาเรียนวิชากับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ได้เรียนวิชาทำแหวนแขน, ตะกรุด, มีดหมอ และอื่นๆ ศิษย์ร่วมรุ่นของหลวงพ่อที่เป็นที่รู้จักกัน คือ หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู อ.บรรพตพิสัย ต่อมา เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หลวงพ่อกลับมาอยู่วัดบ้านแค หลวงพ่อได้สักให้ศิษย์ มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ขนาดสักกันทั้งกลางวันกลางคืน 

          ในช่วงนั้น ข้าวยากหมากเเพง โจรร้ายเต็มบ้านเมือง โดยเฉพาะเเถบภาคกลางตอนล่าง นครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี เป็นเเหล่งกบดานของโจรเสือร้ายหลายกลุ่ม ชาวบ้านเเคได้อาศัยบารมีหลวงพ่อกวย เพื่อคุ้มครองครอบครัวเเละทรัพย์สินของมีค่าต่างๆ ก็จะเอามาฝากหลวงพ่อที่วัด

รูปภาพของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร

          จากคำบอกเล่าของคนเก่าแก่ที่บ้านเเค เล่าว่า พวกโจรเสือไม่มีใครกล้ามาลองดีกับหลวงพ่อกวย มีอยู่รายหนึ่งเป็นเสือมาจากอ่างทอง พาสมุนล้อมวัดบ้านเเคตอนกลางคืน เห็นว่าวัวควายของชาวบ้านที่ลานวัดมีเยอะมาก เเต่ก็โดนตะพดหลวงพ่อจนต้องรีบพาสมุนกลับเเละก็ไม่มาเเถวบ้านเเคอีกเลย เขาว่าในสมัยนั้น เมื่อโจรเสือเดินผ่านวัดหลวงพ่อ ต้องยิงปืนถวายทุกครั้ง หลวงพ่อกวย ไม่ชอบการก่อสร้าง ชอบความเป็นอยู่สมถะ แม้กุฏิของหลวงพ่อก็เป็นไม้ทรงไทยโบราณ แต่การก่อสร้างนั้นหลวงพ่อยกหน้าที่ให้กรรมการวัด แม้การก่อสร้างก็ให้กรรมการวัดและชาวบ้านทำ ดังนั้น วัดบ้านแค จึงมีแต่กุฏิเก่าๆ

           ลำดับสมณศักดิ์ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๑ หลวงพ่อกวยได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวน ก่อนหน้านี้ ในปี พ.ศ.๒๕๒๑ หลวงพ่อกวย ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท หมอได้วินิจฉัยโรคว่าเป็นโรคขาดอาหารมาเป็นเวลา ๓๐ ปี แพทย์ได้ให้สารอาหารประเภทโปรตีนกับหลวงพ่อ เป็นเวลาถึง ๑ เดือน ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย อยู่โรงพยาบาลได้ไม่นาน ท่านก็กลับวัด เมื่อกลับวัดหลวงพ่อก็ยังได้ฉันอาหารเพียงวันละ ๑ ครั้ง เช่นเดิม อีกทั้งยังคงคร่ำเคร่งในการสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคล 

           หลวงพ่อกวย มรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๒๒ สิริอายุ ๗๔ ปี ๕๔ พรรษา ปัจจุบัน วัดโฆสิตาราม เเละบรรดาศิษย์หลวงพ่อกวย ได้ยึดถือเอาวันที่ ๑๒ เมษายนของทุกปี เป็นวันทำบุญประจำปี เพื่ออุทิศและรำลึกถึงหลวงพ่อกวย

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-เผยตำนานที่มา “ยันต์เกราะเพชร”!!!  จากโบราณสมัยสุโขทัยสืบสานต่อโดยหลวงปู่ปานจนถึงหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ โดยพระอาจารย์เล็กวัดท่าขนุน

-ศิษย์หลวงพ่อฤๅษีลิงดำเตรียมตัวให้พร้อม!!!  พิธีบวงสรวงพุทธาภิเษก เป่ายันต์เกราะเพชร "เสาร์ ๕" ๒๖ ส.ค.๖๐นี้ ณ วัดท่าขนุน ทองผาภูมิ กาญจนบุรี

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.web-pra.com

                           palungjit.com